วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2553

~ วันเงินเดือนออก น้องๆในแผนกหยุดไปใช้ตังกันหมด ? ~

...........................เช้าๆแบบนี้บรรยากาศเงียบเหงาเลย นึกอยากพิมพ์ไรเล่นๆ วันนี้เฝ้าร้านคนเดียวเหงาหงอย จริงๆต้องมีน้องๆอยู่ด้วยอีกสองคน แต่เขาหยุดไปใช้ตังกันหมด ก็แน่ละเดือนนี้ได้กันเยอะด้วย เพราะเดือนก่อนมีเงินตกค้างที่เกิดจากความผิดพลาดของแอดมินเขาเคลียร์ให้ไม่ครบ ก็ณเลยเท่ากับได้เงินก้อนเกือบๆเหมือนได้เงินสองเดือน แน่นอนว่าพอรับเยอะ ก็เจอภาษีกันเยอะ โดนกันคนละห้าหกพัน ของผมโดนไป 6171 บ. นึกแล้วเสียดายๆเหมือนกัน คือถ้าเงินภาษีขนาดนี้ต่อเดือน เราเอาไปจ่ายให้กับ ตำรวจทหารภาคใต้ หรือครู หรือข้าราชการดีๆเราก็ไม่เสียดายหรอกครับ แต่นี่เสียไปให้กับไอ้พวกเงินเดือนหัวปิงปองจอมรีดไถ หรือว่าพวกทำมาหาแดกกับความเดือดร้อนของเรา เช่นให้เงินพวก ศ.อ.ฉ. ที่วันๆเบิกงบไปไม่รู้เท่าไหร่ กินกันสะดือปลิ้น หรือแม้แต่พวกทหารที่เข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิไป 91 ศพ !!

...........................เงินภาษีของเราเอง จ่ายไปให้กับพวกเหี้ยนี่ซื้อกระสุนมายิงพวกเราเอง มันบัดซบใหมล่ะครับ แกนนำเสื้อแดง โดนขังคุกแทบลืมไปครึ่งค่อนปีแล้ว แต่แกนนำเสื้อเหลือง และไอ้พวกหลากสี มันได้สัมผัสรสชาติลูกกรงหรือก็ยัง นี่แหละครับบ้านเมืองสองมาตรฐาน อยู่กันได้ก็อยู่กันไป หลายคนบอกสำนึกบุญคุณประเทศชาติ ผมสงสัยว่าจะสำนึกไปทำไม ประเทศชาติสิควรสำนึกบุญคุณเรา ก็เราจ่ายตังให้อยู่ทุกเดือนๆ ไอ้พวกที่กินเงินเดือนจากภาษีของพวกเราสิ ควรจะสำนึกซะบ้าง ไม่ใช่ทำตัวเย่อหยิง ผยอง จองหองพองขน ทั้งๆที่มีกินมีใช้จากหยาดเหงื่อ น้ำพักน้ำแรงของพวกเราแท้ๆ !! ถ้ามีโอกาสเลือก ผมว่าคนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากอยู่ในประเทศแบบนี้หรอกครับ เค้าก็ไปอยู่ในประเทศที่พัฒนากว่า ความเป็นอยู่ดีกว่านี้กันทั้งนั้นแหละ ไม่ว่าจะยุโรป อเมริกา คงไม่มีใครอยากดักดานอยู่อย่างนี้ แต่เพราะมันไปไม่ได้ ก็เลยต้องทนไป คงไม่มีพ่อแม่คนใหนอยากให้ลูกโตขึ้นมาในประเทศแบบนี้ ถ้าเลือกได้ จริงใหมครับ

...........................ตอบแบบไม่สร้างภาพนะครับ ระหว่างให้ลูกโตขึ้นมาในประเทศด้อยพัฒนา เผด็จการครองเมืองเบ็ดเสร็จ กับ โตขึ้นมาในประเทศพัฒนาแล้ว มีการศึกษาดีกว่า มีความเป็นอยู่ดีกว่า คุณภาพชีวิตดีกว่า ถ้าใครเลือกตอบแบบแรก ผมว่าก็คงเป็นพ่อแม่ที่โง่เต็มที ระหว่างทำงานเหมือนกัน ได้เงินเดือน 3 แสน กับทำงานแบบเดียวกันได้เงินเดือน 3 หมื่นบาท เอ้า ไม่ต้องฉลาดมากก็คงคิดกันได้ ชิมิ ชิมิ ?? กลับมาต่อ จะว่าไปแล้วถึงได้เงินน้อยแต่ถ้ารู้จักประหยัด ก็คงรวยกันได้ไม่ยาก อย่างน้องในแผนกผมคนนึง แกโสด ขยัน ประหยัด ตอนนี้เงินเก็บก็เกือบล้านแล้ว ขณะที่ตัวผมและอีกหลายๆคนยังต้องจ่ายหนี้แทบไม่หมดไม่สิ้น เมื่อก่อนผมก็ไม่แย่ขนาดนี้นะ รับผิดชอบการเงินดีกว่านี้เยอะ แต่ก็ไม่อยากจะโทษว่ามึครอบครัวแล้วทำให้ใช้จ่ายเกินตัวมากขึ้น รับเงินเดือนขนาดนี้แต่หนี้ไม่เคยหมดสักที รู้ถึงใหนก็อายไปถึงนั่น

http://www.pandagroup.pantown.com/

วันจันทร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2553

Despicable Me / บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ .... เรื่องแรกจบสวย เรื่องหลังจบห่วย !!

Despicable Me ( สามดาว )
บุญชู จะอยู่ในใจเสมอ ( สองดาว )

...........................เช่าหนังแถวบ้านมา ไม่ค่อยมีอารมณ์ดูหนังเท่าไหร่ คงเพราะไม่มีโปรแกรมเด็ดๆด้วยล่ะมั้ง แถมร้านเช่าริมบ้านก็ไม่ต้องรีบไปคืนหนังด้วย ก็เลยดองไว้ก่อน จนได้ที่ก็หยิบมาดู เรื่องแรกเห็นว่าคำวิจารณ์ดี แต่เนื้อหาพูดตรงๆไม่ค่อยสนุกเลย ตัวละครก็ไม่น่ารัก พัฒนาการของตัวละครก็เล่นง่ายไปหน่อย โชคดีที่ช่วงท้ายหนังเล่าได้ซึ้งพอสมควร ก็เลยทำให้หนังดูดีขึ้นอีกเป็นกอง แต่เมื่อเทียบกับอนิเมชั่นหลายเรื่องในรอบปีนี้ ผมว่า Despicable ก็ดูเหมือนจะเป็นรองอยู่พอสมควร ถ้าได้ชิงออสการ์จริงก็ไม่น่าจะได้รางวัลหรอกครับ แค่ได้ชิงก็บุญหัวแล้ว ปีนี้ถือเป็นปีทองอีกปีสำหรับหนังการ์ตูนครับ ส่วนตัวแล้วชอบ How to train your dragon หรือ Toy Story 3 มากกว่าเยอะเลยล่ะครับ ถ้าไม่คิดมากก็พอดูได้นะ

..........................บุญชู ภาคล่าสุด ผลงานกำกับของซูโม่ กิ๊ก ถือว่าน่าผิดหวังมากๆ ปีนี้ไม่ค่อยเจอหนังห่วยเท่าไหร่ เพราะคัดเลือกหนังดูเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหนังโรงหรือหนังแผ่น แต่หนังเรื่องนี้ก็ทำได้แย่ซะจนมีโอกาสติด 1 ใน 10 หนังห่วยในรอบปีของผม นับว่าเป็นเกียรติยิ่งนัก แล้วก็ทำให้ลิสท์ผมเต็มสักที หลังจากรอตั้งนานไม่รู้จะเลือกเอาเรื่องใหน เพราะส่วนใหญ่มันก็ดีเกินกว่าจะติดลิสท์หนังห่วยได้ ? ผมคิดว่าถ้าอาบัณฑิตมองลงมาจากท้องฟ้า ผมว่าแกน่าจะผิดหวังกับหนังภาคต่อชุดบุญชู หนังที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำตัวของอาไปแล้ว หนังมันติงต๊อง แล้วก็ตลกปัญญาอ่อนมากๆ ไอ้มุขแบบใสซื่อเทือกๆนี้ถ้าเล่นเมื่อ 10 - 20 ปีก่อนอาจจะเวิร์ค ถ้ามาเล่นสมัยนี้ ผมว่ามันตกยุคไปแล้วครับ แล้วเหตุผลในหนังนี่ดูเลื่อนลอยสุดๆ ถึงจะดูเอาเพลินๆก็ยังอดตะขิดตะขวงใจไม่ได้เลยครับว่า เฮ้ย อะไรมันจะเลอะเทอะขนาด

..........................หนังมีดีอยู่บ้างในแง่ของการถ่ายภาพ ซึ่งถ่ายวิวทิวทัศน์ออกมาได้สวยมากๆ กับตัวละครที่มีเสน่ห์อยู่ในตัวบ้าง โดยเฉพาะน้องจันทร์หอม ซึ่งผมไม่รู้ว่าชื่อจริงชื่ออะไร เป็นดาราหน้าใหม่ที่หน้าใสและน่ารักมากครับ ช่วยหนังไว้ได้เยอะ ดนตรีประกอบนี่เกาหลีสุดๆ ช่วงแบ่งแยกตัวละคร เป็นช่วงผู้ใหญ่ กับช่วงเด็ก ดูจะหลุดกันมากไปหน่อย เมื่อเทียบกับหนังแนวคล้ายๆกันอย่าง วัยอลวน 4 ดูเหมือนเรื่องหลังจะทำออกมาได้กลมกล่อม ลงตัวกว่ากันมากมาย !! มีหลายอย่างในหนังที่ดูเหมือนรับอิทธิพลหนังเรื่องอื่นมาเยอะ รายละเอียดปลีกย่อย ซีนการแสดง แม้แต่รถที่พวกคณะบุญชูใช้ ผมยังคิดว่ามันน่าจะมาจาก Little miss sunshine แน่ๆ แต่ไม่ใช่ว่าเค้าจะเอามาแซวให้เป็นมุข คือมันเหมือนลอกเลียนน่ะ ฉากตัวร้ายยิ่งเลอะเปรอะใหญ่ เสียดายแทนคนดัง ดาราดังมากมายที่มารับเชิญ เสียของจริงๆครับ

www.pandagroup.pantown.com

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

Joblovenuk ขำกลิ้ง " ม๊อบเสื้อเหลือง " เต็มอนุสาวรีย์ !!



ดูพวกนี้มันทำซิ คนมากันหน่อยเดียว เลยต้องใช้ซีจีทำเป็นม๊อบว่าเยอะ หลอกคนไม่ได้นะเนี่ย ทำได้แค่หลอกควาย อย่างฮา เห็นแล้วขำทุกที มันคิดได้ไงเนี่ย ไม่โง่จริงทำไม่ได้นะครับ เนี่ย ไอ้พวกง่าววววววว



www.pandagroup.pantown.com

วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

** ใครเคยไปถ้ำกระบอกครับ ขอฟังเรื่องราวหน่อยสิ **



.....................เมื่อวานมีเพื่อนเก่าเพื่อนแก่จากในเวปคนหนึ่งเค้าขับรถจากหาดใหญ่ เพื่อจะไปส่งญาติ หรือคนรู้จักเพื่อไปบำบัดที่วัดถ้ำกระบอก ผมฟังแล้วก็รู้สึกตกใจมาก เพราะไม่แน่ใจว่าวัดถ้ำกระบอกนี้มันเป็นเหมือนที่เราเคยเห็นในหนังหรือเปล่า หรือว่ายังมีความเคลื่อนไหวยังไงกันบ้าง เคยได้ยินว่ามันปิดไปแล้ว แถมมีบางช่วงที่มีการค้ายาและมีพวกม้งพวกแม้ว ก่อความวุ่นวายในวัดอีกด้วย เสียดายที่เพื่อนเค้าโทรมาปรึกษากันช้าไปหน่อย เล่นโทรมาตอนที่กำลังจะไปอยู่แล้ว เพราะงั้นก็เลยเช็คข่าวให้ได้ไม่ละเอียดพอ

.....................โทรไปหาเพื่อนที่เป็นนักข่าว เค้าก็บอกว่าได้ยินเหมือนเรา คือวัดปิดไปแล้ว และก็ไม่มีงบประมาณทำอะไร ตอนนี้ไม่มีการบำบัด โทรไปเช็คที่ข่าวสดตามเบอร์ที่ให้มา เค้าเช็คได้แค่เบื้องต้นว่าวัดยังไม่ปิด และยังมีการรักษาผู้ติดยาเหมือนเดิมอยู่ โทรร่วมด้วยช่วยกัน เค้าก็บอกตรงกัน สุดท้ายก็เลยต้องให้เพื่อนเสี่ยงดวงไปวัดถ้ำกระบอก ไปดูกับตาตัวเองว่ามันเป็นอย่างไรกันแน่ ความจริงวันนี้ เพราะเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็เคยได้ยิน ได้ฟังมา แต่ไม่เคยเห็นกับตาหรอกครับ เพราะคงมีน้อยคนที่ยอมบอกว่า ตัวเองเคยติดยา หรือเคยไปบำบัดในลักษณะแบบนั้น ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดอยู่ในหัว

.....................เสียดายว่าวันนี้ต้องมาทำงาน ไม่งั้นก็อาจจะขับรถไปสระบุรีสักหน่อย เพราะไม่ได้เจอกับเพื่อนซันมาตั้งนานแล้ว และสระบุรีก็ไม่ไกลบ้าน ขับรถแค่ไม่เกินชัวโมงก็ถึงแล้วครับ เพราะจากบ้านผมก็อยู่เกือบๆถึงบางปะอินอยู่แล้ว เลี้ยวนิดเดียวก็เข้าสระบุรีได้ อยากไปเห็นกับตา ไปถ่ายภาพมาโพสท์เหมือนกันครับ เพื่อนๆในเวปจะได้เห็นว่า วัดถ้ำกระบอกปัจจุบันนี้มันเป็นอย่างไรกันแน่ ยังมีการให้คนติดยามาอ๊วกๆๆ เป็นแถวๆเหมือนในหนังที่เราเคยดูตั้งแต่สมัยเด็กๆหรือเปล่า ? เท่าที่โทรไปคุยล่าสุดตอนสายๆ เห็นว่า ที่วัดยังมีกระบวนการรักษาผู้ติดยาเหมือนเดิม โดยไม่ให้ผู้ป่วยถือเงินไว้ เอาเงินไปให้ที่ออฟฟิศ แล้วออฟฟิศจะให้เป็นคล้ายๆคูปองทานข้าวกับผู้ป่วยที่มารักษา เห็นว่าต้องรักษาประมาณ 15 วัน แล้วก็คงจะให้พี่สาวเค้ามารับไปส่ง ก็ไม่รู้ว่าจะทำให้หายขาดจากการติดยาได้หรือเปล่า เพราะสมัยนี้สิ่งยั่วยวน เร่งเร้าให้กลับมาติดยามันมีเยอะเหลือเกิน ก็ได้แต่ส่งใจและหวังว่าผู้ติดยาคนนั้นจะเลิกละ ยาเสพติด กลับเป็นคนดีของสังคมได้ด้วย

www.pandagroup.pantown.com

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

** พัฒนาการที่สวนทาง ระหว่างคนแก่ และเด็กน้อย **






..................ช่วงนี้อากาศยามเช้าค่อนข้างเย็นสบาย เชื่อว่าหลายๆท่านคงจะนอนกันแบบไม่ต้องเปิดแอร์ได้อย่างมีความสุข แต่ที่บ้านผมก็ยังเปิดแอร์อยู่เพราะน้องมูวี่เค้าติดแอร์ไปแล้ว ส่วนห้องคุณย่ากับพี่เลี้ยง ตอนนี้ก็แค่เปิดหน้าต่างก็สบายแล้วครับ ประหยัดไฟ อิอิ ตื่นเช้ามาก็ประมาณ 7 โมง 7 โมงกว่าๆก็ลงมาด้านล่าง เห็นคุณย่าท่าทางอยากไปเที่ยว แต่พอดีวันนี้ทำงาน เมื่อวานก็ไม่ค่อยสบาย เลยนอนอยู่บ้านไม่ได้ไปใหนเลย สงสารแกเหมือนกัน ว่าแล้วก็เลยชวนแกไปเดินเล่นแถวๆบ้าน คุณย่ายังดูแข็งแรงพอประมาณ

..................แต่คุณย่าก็เดินช้าลงไปมากๆ ที่บ้านไม่มีไม้เท้า แต่ถึงมีก็ไม่อยากให้ใช้ อยากให้แกพยายามเดินเองมากกว่า พาแกเดินได้ประมาณสัก 5 - 60 เมตร ก็เดินเลี้ยวกลับครับ ไปไกลมากเด๋วไม่ไหว แกจะเหนื่อย คนเราแก่ตัวลงนี่ก็แปลกนะ เหมือนเด็กเล็กเข้าไปทุกทีๆ ทั้งนิสัย และการช่วยเหลือตัวเอง เด๋วนี้มูวี่เองยังสวนทาง ยิ่งเก่งขึ้นทุกวันๆ ช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ชนิดที่เราตามแทบไม่ทันอยู่แล้ว ขี่จักรยานงี้ไวสุดๆเลยค่ะ ขอให้ช่วยทำอะไรก็ทำได้หลายอย่าง เข้าห้องน้ำห้องส้วมเองได้ ใส่เสื้อผ้าถอดผ้าแปรงฟันได้

..................ขณะที่คุณย่า เริ่มจะอ้อน งอแง ชอบกอด เหมือนเด็กๆไปแล้ว ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้หลายๆอย่าง ต้องป้อนข้าวแทน อ่านหนังสือก็ไม่แข็งแล้ว ห้องน้ำก็เข้าไม่เป็น ต้องใช้แพมเพิสช่วยเหมือนเด็กเล็กๆ ส่วนมูวี่ไม่ต้องใช้แพมเพิสตั้งนานแล้ว อยากจะพาคุณย่าคุณหลานเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ แต่ตอนนี้มูวี่ก็เปิดเทอมแล้ว อีกอย่างวันหยุดผมก็เหลือน้อย เพราะใช้วันหยุดต้นปีไปเยอะเกิน เหลือหยุดได้แค่เดือนละห้าวัน กะว่าวันหยุดหน้าจะพาแกไปนั่งรถเล่นสักแถวๆเขาใหญ่สะหน่อย ไม่รู้ว่าน้ำจะหายท่วมหรือยังหนอ ?

www.pandagroup.pantown.com


วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

** ผีสูบน้ำ ... ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในบ้านผมบ่อยๆ **



..............สังเกตุมาหลายต่อหลายทีแล้วครับ ที่บ้านผมมักจะมีเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ ที่อธิบายไม่ได้ตามหลักการณ์ทางวิทยาศาสตร์อยู่เรื่อยๆ คือผมก็ไม่ค่อยอยากจะเล่าหรอกนะครับ มันน่ากลัวมากๆๆๆ แบบว่าแอบสังเกตุอยู่หลายทีแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร อาการก็คือ น้ำที่เปิดไว้เต็มถังน้ำ ร้อยกว่าลิตรในห้องน้ำชั้นบนบ้าน มักจะหายพร่องลงไปโดยไม่ทราบสาเหตุอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้ง เป็นแค่เพียงบางครั้งเท่านั้น บางทีน้ำก็อยู่อย่างปกติ แต่บางวันน้ำก็ลดลงไปแบบเหมือนกับว่ามีคนแอบมาใช้น้ำ ก็ยังสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร กะว่าจะลองตั้งกล้องวีดีโอแอบถ่ายไว้เหมือนกันตอนที่น้ำมันกำลังลด ทีแรกก็คิดๆอยู่ว่าคุณนายที่บ้านแอบอำหรือเปล่า ตักน้ำทิ้งแล้วบอกว่าที่บ้านมีผี อะไรแบบนี้ แต่ก็คิดว่ามันไร้สาระ

...............ก่อนหน้านี้หลายต่อหลายครั้งก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองฝันหรือตาฝาดหรือเปล่า จนเมื่อวานนี้ค่อนข้างจำได้แม่นยำ เพราะดูอยู่หลายรอบ ตอนตื่นมาเข้าห้องน้ำ รวมถึงตอนก่อนจะลงจากชั้นบนบ้าน แล้วก็ตอนลงมาแล้วขึ้นไปดูอีกรอบ ก็ยังถามแฟนว่า ระดับน้ำเมื่อเช้าตอนที่เห็นแล้วก็ฝากไปดูมันอยู่ระดับใหน แฟนก็ว่าเต็มถัง แต่พอชวนกันขึ้นไปดูอีกที อุ๋ย อยู่แค่ระดับก้นๆถัง แล้วน้ำมันหายไปใหน พื้นห้องน้ำก็แห้งสนิท ขอบข้างถังก็แห้งสนิท เหมือนกับน้ำมันเหือดแห้งไปเองเป็นเวลานานมากแล้ว ก็ยังแปลกใจ และรู้สึกขนหัวลุกนิดๆ ( ล้อเล่นน่ะครับ อิอิ ) จนมาเล่าให้เพื่อนและพี่ที่ทำงานฟัง คุยไปคุยมา เค้าก็สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สรุปได้ความว่า เกิดจากการวางสายยางหรือสายฝักบัวลงไปในถังกระมังครับ

................น้องเค้าเล่าว่าที่บ้านก็เคยเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้เช่นกัน เพราะว่าแม้เราจะปิดน้ำทิ้งไว้ แต่ถ้าบ้านอื่นๆเขาใช้น้ำกันเยอะมาก โอกาสที่น้ำจะถูกดูดกลับผ่านสายยางหรือฝักบัว เพื่อส่งต่อไปใช้ยังบ้านอื่นก็มีความเป็นไปได้น่ะครับ ผมเองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเพราะว่า ท่อน้ำนั้นถูกปิดไว้เรียบร้อย น้ำจะดูดกลับไปยังท่อส่งน้ำได้อย่างไร ผมก็ยังสงสัยอยู่ แต่พิจารณาจากความเป็นไปได้ก็น่าจะมีความน่าเชื่อมากกว่า ผีมาอาบน้ำ หรือผีมาสูบน้ำไปทำอย่างอื่น แน่ๆ ? หรือว่าน้ำจะถูกดูดตอนที่ฝักบัวถูกปรับอยู่ในส่วนของการเปิดน้ำทิ้งไว้เพื่อให้น้ำเต็ม แต่น้ำมันไม่ออกแต่กลับโดนดูดกลับไปก็ไม่ทราบได้ ต่อจากนี้ก็จะลองใช้วิธีใหม่ ไม่เอาสายฝักบัวทิ้งไว้ในถังน้ำแล้วล่ะครับ เอาแขวนไว้ตามเดิม คราวนี้ถ้าน้ำหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุอีก ก็คงจะเป็น Paranormal Activities ของจริงกันแหง๋ๆแล้วล่ะครับ ต้องติดตามกันต่อไปนะครับ แล้วจะมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปนะครับ

ป.ล. ตามติดครอบครัวของผมต่อได้ในเวปไซค์หมีแพนด้านะครับ
www.pandagroup.pantown.com

วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Robin Hood .... กล้าพอใหม๊ ฉีกกฏประวัติศาสตร์ ?




Robin Hood ( สองดาวครึ่ง )

..........................ความแตกต่างระหว่างคนดูหนังในประเทศที่พัฒนาแล้ว กับประเทศด้อยพัฒนาต่างกันตรงใหนรู้ใหมครับ ? ก็ตรงวุฒิภาวะและความเฉลียวฉลาดของคนดูไงล่ะครับ เอากันง่ายๆแค่แยกแยะให้ออกระหว่าง ประวัติศาสตร์ของแท้ และภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ คนดูหนังบางประเทศก็แยกไม่ออกแล้ว คือคนโง่ๆก็มักจะนึกเอาเองว่า โอ ถ้าเป็นหนังที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์แล้ว จะต้องยึดตามขนบและความถูกต้องของประวัติศาสตร์เป๊ะๆ ทั้งๆที่พวกเค้าเหล่านั้นก็ไม่รู้ความจริงแท้เลยว่า ประวัติศาสตร์หรือเหตุการณ์ตามจริง มันมีอะไรเกิดขึ้นบ้างกันแน่ ? ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลองบางระจัน เกิดมีการทำภาคต่อออกมาเรื่อยๆ แล้วคนทำหนังเกิดพลิกเรื่องราวทั้งหมด จนไม่เหมือนอย่างที่เคยเรียนหรือจดจำกันมา คุณว่ามันจะเป็นอย่างไรกันล่ะครับ ?

..........................Robin Hood เวอร์ชั่นใหม่ ของริดเลย์ สกอต ก็เช่นกัน ถือว่าเป็นความกล้าหาญอย่างยิ่งยวด ที่หยิบตำนานวีรบุรุษแห่งป่าเชอร์วู๊ด ออกมาปัดฝุ่น ทำกันใหม่ในยุคนี้ แถมเล่าเรื่องแบบดิบ เถื่อน ใช้ดารามาดเซอร์ อย่าง รัสเซล โครว์ ที่ไม่มีมาด โรบิน ฮู๊ด เลยแม้แต่น้อยมาเป็นพระเอก แถมยังใช้ดาราฝีมืออย่าง เคท บลานเซทท์ มาเป็น เลดี้ แมเรียน อีกต่างหาก ? ถ้าใครเคยดู โรบินฮู๊ด เวอร์ชั่น โรแมนติก ฮีโร่ เมื่อสัก เกือบ 20 ปีก่อน ที่ เควิน คอสเนอร์เล่นแล้ว คงนึกไม่ออกแน่ๆว่า โรบินฮู๊ด จะกลายมาเป็นแบบที่เห็นใน พ.ศ.นี้ได้อย่างไร มันคือแบบว่า คนละเรื่องเดียวกันขนานแท้ ที่มีเหมือนกันอย่างเดียวก็คือ ชื่อพระเอกนางเอก และเรื่องราวฉากหลังอันน้อยนิดของป่านอตติ้งแฮม ซึ่งตอนนี้ทีมฟุตบอลชื่อเดียวกันกับป่านี้ ก็ไม่รู้หายสาปสูญไปใหนแล้ว ?

..........................ยอมรับว่าผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบเวอร์ชั่นเพ้อฝัน แบบที่คอสเนอร์เคยเล่นไว้ และคิดว่าชาวโลกก็คงชอบเช่นกันเพราะไม่งั้นหนังคงไม่ทำเงินถล่มทลายไปหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐ ? แต่พอมาเจอความจริงอีกด้านแบบนี้ เรารับได้นะ เพียงแต่บางครั้งความจริงที่ไม่สวยหรู ความจริงที่มันไม่ได้งดงาม มีด้านมืดมากมาย มันก็เข้ากันดีกับเหตุบ้านการณ์เมืองในหลายยุคสมัย ที่เราไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว อะไรคือดี อะไรคือชั่ว แม้แต่กษัตริย์ในหนังยังตรัสแล้วคืนคำได้ นับประสาอะไรกับคำพูดของมนุษย์ปุถุชนอย่างเราๆท่านๆ ถ้าหากคนดูหนังเรื่องนี้ไม่เปิดใจให้กว้าง ก็คงด่าทอหนังหยาบๆคายๆว่า บิดเบือดประวัติศาสตร์ และทำลายตำนานฮีโร่ แต่อย่างว่า คนดูหนังในต่างประเทศเค้าฉลาดพอที่จะรู้ว่า อะไรคือความจริง และอะไรคือภาพยนตร์ ? และหนังเรื่องนี้ก็อาจจะเปิดมุมมองของคนที่คิดแคบ ให้รู้จักมองออกไปนอกกะลาดูบ้าง


http://www.pandagroup.pantown.com/

วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

joblovenuk ขอร้องพี่ๆสื่อนะครับ อย่าเผยแพร่เรื่องพี่โชนตัวจริงของน้องใบเฟิร์น อิอิ ~

........ กลัวๆพี่ๆสื่อมวลชน จะเจอภาพเก่าๆของผมจังเลยครับ สมัยกระโน้นนน ผมก็เคยมีชื่อว่า พี่โชน อ่ะครับ อิอิ ก็สนิทสนมกับน้องน้ำเค้าอ่ะครับ ก็ไม่ใช่แฟนอ่ะครับ สนิทสนม แบบว่า มีความสัมพันธ์ ( เอิ๊กกก ) ล้อเล่นน่ะครับ ดูความสนิทสนมจากในภาพก็แล้วกันนะครับ ภาพชุดนี้ก็เก่าเก็บพอสมควรแล้วอ่ะครับ เสียดายถ้ารู้ว่าน้องน้ำเค้าจะดังขนาดนี้ ก็จะขอถ่ายภาพแบบแนบชิดไว้หลายๆภาพอยู่ ตอนโน้นนนน แทบจะไม่มีนักข่าวหรือสื่อ ขอน้องเขาถ่ายภาพเลยครับ คงเพราะเป็นเด็กใหม่ เพิ่งแสดงหนังเรื่องแรกด้วยกระมังครับ ผมเห็นว่าน่ารักดี ก็เลยขอถ่ายภาพคู่ไว้ ช่างเป็นโชคดีจริงๆ ปีกว่าๆถัดมา น้องเค้าก็กลายเป็นดาราดังน่าจับตาไปซะเล้ว

www.pandagroup.pantown.com







วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

Our Family Wedding ... ถ้าคนเรารักกัน งานแต่งงานจะมีความหมายอะไร ?

Our Family Wedding ( วิวาห์วุ่น คุณพ่อขวางลำ ) .... 2 ดาวครึ่ง ....

..........................ดูหนังเรื่องนี้แบบไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ เพราะดูแผ่นแรกหลายวันก่อน ก่อนจะมาดูแผ่นสองต่ออีกเมื่อคืนนี้ ยอมรับว่าอารมณ์สะดุดไปเหมือนกัน เหมือนหนังคนละเรื่องเลยครับ จริงๆผมว่ามันเป็นเพราะตัวหนังด้วย ผมชอบครึ่งแรก หมายถึงแผ่นแรกมากๆ เพราะมันทั้งตลก น่ารัก สนุก และโรแมนติก หยิบเรื่องพ่อผัว พ่อตาแม่ยาย ไม่กินเส้นกันมาเล่นได้อย่างสนุกและขบขัน ที่สำคัญหนังเรื่องนี้เป็นหนังคนดำ ผู้มีอันจะกินนะครับ ครอบครัวฝ่ายชายเป็นคนดำ ส่วนฝ่ายหญิงเป็นละติน อเมริกัน ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มน้อยของอเมริกาทั้งคู่ แต่สังเกตุว่าทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงก็เป็นคนมีตังนะครับ ไม่ใช่กะโหลกกะลา หรือพวกเพิ่งอพยพเข้าไปอยู่ คือปักหลักปักฐานกันจนล่ำซำแล้ว การที่ลูกสาวหรือลูกชายจะออกเหย้าออกเรือน ก็ต้องทำให้มีหน้ามีตากันหน่อย

..........................คู่ผัวตัวเมีย ตัวลูกชายลูกสาวที่เค้าจะแต่งงานกัน เค้าไม่ต้องการให้อะไรมันยุ่งยากหรอก แต่พ่อผัวก็เรื่องมาก พ่อตาแม่ยายก็มากเรื่อง ต้องทำพิธีรีตองมากมาย มีขนบธรรมเนียมประเพณี ทั้งฝ่ายผิวดำ และฝ่ายเม๊กซิกัน เยอะมาก ทำให้ลูกๆ ที่จะเข้าพิธีเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวปวดหัวไปตามๆกัน จนงานแต่งเกือบจะล้มเลิกเพราะรับกับความกดดันไม่ไหว แล้วก็มีทะเลาะกันบ้าง ก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลายกันได้ด้วยดี ตามสูตร หนังมีรายละเอียดเบ็ดเตล็ดเบี้ยบ้ายรายทางเยอะมากครับ ดาราที่มาเล่นหลายๆคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ฟอร์เรสท์ วิทเทเกอร์ ดาราออสการ์ ก็มารับบทเป็นพ่อผัวด้วย คุ้นๆยังกะเห็น เอดดี้ เมอร์ฟี่ กับดาราที่เคยเล่นหนังบ่อยๆอีกคน แต่จำชื่อไม่ได้ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นรอมคอม ก็เลยได้เห็นดาราผิวสีที่เคยเล่นบทหนักๆมาผ่อนคลายกับบทบาทเบาๆกันดูบ้างในหนังเรื่องนี้

..........................เชื่อว่าคนดูหนังบ้านเราไม่ค่อยได้ดูหนังคนดำกันเท่าไหร่หรอก เจอวัฒนธรรมของฝรั่งผิวขาวครอบงำจนคิดว่า เมืองนอกมีแต่คนขาวเท่านั้นที่ฉลาดและรวย ทั้งๆที่จริงๆอเมริกาเป็นประเทศที่วัฒนธรรมหลากหลาย คนหน้าตาเอเซียอย่างเราๆหรือ หน้าตาละติน หรือแม้แต่พวกผิวสี ก็มีคนที่ฉลาดๆ และมีอาชีพที่ได้รับหน้าถือตามากมาย พวกผิวดำไม่ได้มีแต่พวกค้ายา หรือยากจน เหมือนในหนังฮอลลีวู๊ดส่วนใหญ่ ก็เหมือนกับคนในประเทศอื่นๆน่ะแหละครับที่มีทั้งคนรวยคนจน คนฉลาดคนโง่ ซึ่งจะแยกแยะจากหน้าตาหรือบุคลิกลักษณะภายนอกได้ค่อนข้างยาก ในประเทศที่มีการแบ่งแยกชนชั้นมากๆอย่างประเทศไทยหรืออินเดีย ก็เลยทำให้หนังบางประเภทได้เข้ามาฉายกันเยอะจนเอียน ขณะที่หนังบางประเภท ถูกจำกัดกีดกันจนแทบไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากในบ้านเรา มันอาจจะเป็นเพราะคนดูหนังบ้านเรามันรสนิยมต่ำก็เป็นได้ ?

www.pandagroup.pantown.com


วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

Silent Venom ....หนังเกรดบีที่เล่นเอา joblovenuk สะดุ้งเสียวสยอง ร้องกรี๊ดเป็นระยะ ~

Silent Venom ( อสรพิษเลื้อยดิ่งทะเลลึก ) .... สามดาว .....

..........................คนทำหนังที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร และก็ตั้งใจทำมันอย่างไม่เสแสร้ง มักจะทำมันออกมาได้เป็นอย่างดีนะครับ โดยเฉพาะหนังที่หน้าตาสไตล์คล้ายหนังเกรดบี ถ้าพยายามทำตัวหัวสูง ยกระดับตัวเองมักจะไปไม่ค่อยรอดทั้งนั้น อย่างหนังเรื่องนี้ คนทำเค้าก็รู้ว่าตัวเองทำหนังเกรดบีอยู่ เค้าก็เล่นกันแบบซื่อๆ งบน้อยก็ไม่ต้องไปทำอะไรหรูหรา คนดูไม่ได้ต้องการใส่ใจอะไรกับสเปเชียลเอฟเฟคซ์อะไรมากมายอยู่แล้ว ขอให้เล่าเรื่องฉลาดๆ เล่นกันอยู่ในพื้นที่แคบๆ ก็ทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นเสียวสยองได้ตามที่ผู้กำกับบัญชาอยู่แล้ว !! แถมหนังเรื่องนี้ได้ดารา ที่มีชื่อเสียงพอควรอย่าง ลุค เพอร์รี่ กับ ทอม เบเรนเจอร์ มาร่วมแสดงด้วย ก็ยิ่งทำให้หนังดูดีขึ้นอีก ? ต้องบอกว่าโชคดีมากๆที่คนเขียนบทหนังเรื่องนี้ ทำงานแบบตั้งใจ และเขียนเรื่องราวออกมาได้สนุกสนานเร้าใจเกินคาด เจ๋งกว่าหนังแนวนี้หลายๆเรื่อง เลยช่วยยกระดับหนังเกรดบีเรื่องนี้ได้อีกมากโข

..........................Silent Venom เป็นหนังที่เกี่ยวกับ งูเงี้ยวเขี้ยวขอด ที่เป็น งูพิษร้ายแรง ผ่านการทดลองจากกองทัพลับๆอยู่บนเกาะแห่งนึง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ เผอิญต้องอพยพเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากไปทำการวิจัยอยู่แถวๆหมู่เกาะของไต้หวัน ซึ่งกองทัพจีนจะทำการซ้อมรบใกล้ๆกันนั้น ทางอเมริกาก็กลัวว่าทหารจีนอาจจะไปพบการทดลองครั้งนี้ ทำให้ความลับทางการรั่วไหล และเนื่องจากเป็นภารกิจเร่งด่วน จึงต้องให้เรือดำน้ำซึ่งบังเอิญว่าเป็นเรือเก่า ที่กำลังจะส่งมอบไปให้รัฐบาลไต้หวันพอดี ขับไปรับนักวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งขนงูร้ายเหล่านี้ ไปยังจุดหมายปลายทางที่ญี่ปุ่นด้วย โดยที่เหล่าทหารลูกเรือและกัปตันก็ไม่ทราบว่า สินค้าที่นำมาด้วยกับเรือดำน้ำ เป็นงูพิษร้ายแรงจำนวนมากที่พร้อมจะฆ่าทุกคนที่เข้าใกล้ เร็วอย่างที่แทบจะไม่มีใครตั้งตัวได้เลย !! ก่อนหน้านี้เราเคยมีหนังงูบนเครื่องบิน บนรถไฟ ในป่า มาแล้วคราวนี้ เราก็จะได้ดู งูในเรือดำน้ำ ?

..........................หนังได้ ลุค เพอร์รี่ อดีตดาราทีวีชื่อดัง ซึ่งเหมือนเคยเล่นหนังโรงด้วย มาเล่นเป็นพระเอก กัปตันเรือดำน้ำซึ่งใกล้จะปลดเกษียณ และเคยมีปมจากการตัดสินใจทำงานที่ผิดพลาดครั้งหนึ่งในอดีต กับดาราเก่าชื่อดังอีกคน ทอม เบเรนเจอร์ เล่นรับเชิญเป็นนายพลเรือ ?? ส่วนที่เหลือก็เป็นดาราใหม่ และดาราหนังเกรดบี ความมันส์ก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อลูกเรือคนนึงดันเกิดไปทะลึ่งเปิดกล่องพัสดุเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในแล้วก็พบเจ้างูจำนวนมาก โดดออกมาฉก แล้วก็เริ่มคลานออกจากกล่องที่คุมขังตัวเองไว้ และเลื้อยออกมายั้วเยี้ยเต็มลำเรือ คอยฉกทหาร และคนบนเรือ ผู้กำกับเล่นเอาล่อเอาเถิด และสร้างความเสียวสยองให้คนดูได้สำเร็จ โดยฉากงูโผล่แต่ละฉากเล่นเอาผมสะดุ้งโหยง และร้องกรี๊ดกร๊าดอยู่หลายที เพราะมันทั้งน่ากลัว น่าเสียวไส้เอามากๆ เพียงแค่ไม่เกิน 2 นาทีที่โดนงูกัด คนก็ลงไปชักดิ้นชักงอกับพิษร้ายแล้ว และแล้วลูกเรือก็เริ่มหายไปทีละคนสองคน

..........................ไม่แค่นั้นบทหนังยังฉลาดเข้าไปอีก ด้วยการที่ให้เรือดำน้ำของพระเอก เข้าไปตกอยู่ภายใต้วงล้อมการซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพจีน เรียกว่า ด้านนอกก็มีเรือศัตรูที่พร้อมจมเรือตัวเองได้เต็มไปหมด ด้านในเรือก็มีงูจำนวนมากที่พร้อมจะคร่าชีวิตของคนบนเรือ เจอศัตรูทั้งภายนอก ภายใน เข้าไปพร้อมๆกันแบบนี้ แล้วลูกเรือดำน้ำลำนี้จะเอาชีวิตรอดได้สักกี่คน และจะแก้ไขปัญหาทั้งสองด้านกันแบบใหน ต้องไปติดตามชมในหนังเกรดบีเรื่องนี้กันเอง ? อสรพิษเลื้อยดิ่ง เป็นหนังที่เล่นกับธรรมชาติของงูได้อย่างสมจริง ด้วยความที่มีหนังงูใหญ่ งูเล็ก เลยทำให้คนดูได้ตื่นเต้นกันได้สะใจทั้งสองทาง ชอบอะไรเว่อร์ๆก็ได้ดูเว่อร์ๆ ส่วนชอบความสมจริงก็ได้เห็นอย่างที่ต้องการ งูพิษร้ายที่น่ากลัวส่วนใหญ่ของหนังจะเป็นงูตัวเล็กมากกว่า แล้วหนังก็เล่นสนุกกับความเป็นความตายของตัวละครในหนังได้อย่างน่าสะพรึง แม้บางครั้งงูจะแค่เลื้อยผ่าน หรือแค่โผล่แว่บๆ บางทีการเฉียดเข้าใกล้ความเป็นความตายอาจจะเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่าความตายก็ได้

www.pandagroup.pantown.com


วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

~ ปาร์ตี้ คาราโอเกะ กับน้องๆในแผนกที่ The immortal boat ~


...................ค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถูกน้องๆเชิญแกมบังคับให้ไปปาร์ตี้ โอเกะของแผนกกัน ที่ร้านอิมมอร์ทอล พอดีว่าที่ร้านก็มีค่าส่วนกลางของแผนก ที่เป็นเงินเก็บมากพอสมควรอยู่ แล้วก็ไม่เคยได้ไปร่วมฉลองกันเฉพาะแผนกของเราแผนกเดียวมาเป็นเวลานานแล้ว งานนี้ก็เลยอยากแสดงพลังให้แผนกใกล้เคียงรวมถึงใครต่อใคร ได้เห็นความสามัคคี กลมเกลียวของ ชาว ETC บ้าง ก็เลย นะ ไปซะหน่อย งานนี้โนคนนอก ไม่มีคนในครอบครัว แฟน กิ๊ก เพื่อนฝูง หรือแม้แต่หัวหน้างาน คือไปกันแบบคนในสุดๆ แล้วก็ไปครบคนด้วย 8 คน เป็นที่แปลกใจของใครต่อใครถ้วนหน้า

...................ในงานก็ต้องบอกว่าสนุกกันมากๆๆ ที่อิมมอร์ทอลเนี้ย โอเกะเค้าทำดีมากนะครับ หาเพลงก็ง่าย แค่คีย์ชื่อเพลงลงไปในแป้น เพลงก็มาให้ร้องกันแบบมิวสิควีดีโอ คาราโอเกะ สะดวกรวดเร็ว แล้วบรรยากาศก็ดี อาหารก็อร่อย ราคาไม่แพงอย่างที่คิดครับ สรุปวันนั้นจ่ายเงินเพิ่มอีกคนละ 105 บาทเท่านั้นเอง โคตรคุ้ม แถมเราไปกันก่อนตั้งแต่หัวค่ำ กินกันจนตีหนึ่งเลยครับ มีน้องคนนึง ( แป๋ง ) เค้าถ่ายคลิปไว้เกือบตลอดงาน ตอนนั้นผมก็คิดนะ มันเอาอะไรคิดวะ ถ่ายคลิปไปทำไม น่าจะเก็บแต่ภาพนิ่งดีกว่า แต่ปรากฏว่าผมคิดผิด เพราะภาพคลิปที่ออกมา มันสะท้อนและถ่ายทอดให้คนอื่นเห็นว่า ในงานวันนั้นพวกเราสนุกกันขนาดใหน ทั้งร้อง ทั้งเต้น แบบบ้าสุดๆ

ป.ล. เก็บภาพมาให้ชมบางส่วนนะครับ เพราะถ่ายไว้เยอะ ดูต่อได้ในเวป pandagroup

www.pandagroup.pantown.com


















วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

~ วันหยุดน้อย ภารกิจมีเยอะ จัดสรรเวลาให้พอนี่มันช่างยากเสียจริง ~



.........................ช่วงนี้ต้องทำงานยาวๆๆ แทบจะไม่ค่อยได้หยุดเลย เพราะใช้วันหยุดไปเยอะในช่วงครึ่งปีแรก ต้องบอกว่าเล่นเอาอ่อนเพลียเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าพอสมควรเลยครับ บางทีต้องทำงานอาทิตย์ หรือเกินอาทิตย์ หยุดแค่วันเดียว ปกติผมก็ทำงานเฉลี่ย ห้าวันหยุด 1 วัน แค่นั้น ถ้าทำงานแบบราชการหรือออฟฟิศ ก็คงสบายหน่อย เพราะได้หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ แต่ผมทำงานไม่เหมือนชาวบ้าน ก็เลยไม่ได้หยุดตรงกับวันหยุดครอบครัวนักหรอกครับ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะช่วงวันหยุดคือวันทำเงินทำทองอยู่แล้ว ขืนไปหยุดบ่อยๆก็กินแกลบพอดี อย่างเดือนนี้ก็เลือกหยุดวันเสาร์ ไปตั้งสองเสาร์ เพราะจะไปเชียร์บอลเชียงรายเตะนอกบ้านน่ะครับ เลยยอมสละวันหยุด

.........................เมื่อวานทีแรกกะว่าจะไปดูหนังสักหน่อย แต่คุณนายอารมณ์ไม่ค่อยดี ก็เลยต้องรีบออกจากบ้านไม่ให้เป็นการเสียเวลา พาตัวเองไปทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ ที่กรมการกงศุล แถวๆแจ้งวัฒนะ ซอย 9 ก็ต้องบอกว่าสถานีโอ่โถง และมีบริการที่รวดเร็วฉับไว น่าจะเป็นหน่วยงานราชการหนึ่งในไม่กี่ที่ ที่บูรณาการตัวเองจนถึงขีดสูงสุด มันเป็นอะไรที่หายากมากนะครับ แบบว่าจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้เป็นระบบระเบียบ เดินตรงเข้าไปก็ทำเรื่องราวให้มันเสร็จได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว หรือจัดแจงเอกสารให้มันวุ่นวายเหมือนหน่วยงานราชการที่อื่นๆ อยากให้ที่อื่นๆได้มาดูงานที่นี่จริงๆ ทำอะไรให้มันเรียบง่าย รวดเร็ว สะดวกสบาย เหมือนที่กรมการกงศุลนี้บ้าง

.........................เสียเวลาไม่ถึง 20 นาทีก็จัดการทำพาสปอร์ตเล่มใหม่เสร็จเรียบร้อย อีกสามวันก็มารับได้เลย หรือจะรอรับที่บ้านก็ได้ถ้าขี้เกียจมา เสร็จภารกิจแรก ผมก็ขับรถออกเดินทางต่อ ขึ้นทางด่วนตรงแจ้งวัฒนะ ไปลงยมราช มองเห็นความวุ่นวายตรงด่านจ่ายตังเหมือนกันที่เขาแบ่งแยกช่องไว้ให้กับ Easy Pass ที่กำลังเป็นข่าวนั่นแหละ จริงๆช่องอีซี่ ทำไว้ช่องเดียวก็พอมั้ง ไม่เห็นรถเข้าไปใช้บริการกันเท่าไหร่เลย ขนาดไปตอนช่วงไม่เร่งรีบ ยังต้องรอคิวขนาดนั้น ถ้าเป็นช่วงรถติดไม่อยากจะคิดเลยพับผ่าว่าจะหงุดหงิดได้ขนาดใหน ? เสียเวลาไม่เยอะก็มาโผล่แถวๆราชดำเนิน ข้ามพระรามแปดไปฝั่งปิ่นเกล้า แวะไปยังร้านล้างตู้แอร์รถยนต์ กะจะไปล้างแอร์สักหน่อย ปรากฏว่า ราคามันพุ่งขึ้นไปถึง 1200 ( เมื่อก่อน 400 บาท ) เลยเปลี่ยนใจยังไม่ทำดีกว่า

.........................ขับรถต่อไปโรงพยาบาลยันฮี รถติดพอสมควรเหมือนกัน เพราะมีการก่อสร้างอะไรแถวๆนั้นน่ะแหละ ไปถึงก็เข้าไปเช็คอิน เอ้ย ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อน ปรากฏว่าโดนวัดความดันด้วยผมบอกว่า ผมมาขูดหินปูนนะเฟ้ย จะมาวัดความดันทำบ้าอะไร ( เริ่มสังหรณ์อะไรแปลกๆแล้ว ) ถามเค้าว่าจะได้ขูดกี่โมง นานหรือเปล่า กี่คิว ขณะนั้น 11.30 น. เค้าว่าสามคิว ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เลยไปทานข้าวที่ฟู๊ดเซนเตอร์ก่อน อาหารก็งั้นๆครับ ฟู๊ดเซนเตอร์ต้องเดินออกไปนอกตัวโรงบาลนะครับ ถ้าไปกินที่ร้านอาหารของโรงพยาบาล บรรยากาศดีมาก แต่ราคาอาหารแพงกว่าฟู๊ดคอร์ทเซนทรัลอีกครับ ขอบอก !! กลับมาถึงโรงบาล ก็รอคิวอีกพักใหญ่ๆ สงสัยคงจะโดนแซงคิวไปแหง๋ๆ โทษฐานไม่นั่งรอคิวอยู่ที่แถวๆเคาเตอร์ พยาบาล ?

.........................เที่ยงเศษๆก็ได้เข้าไปขูดหินปูนกับคุณหมอผู้หญิง โอ้ นึกว่าจะสบายๆ เสียวๆเหมือนที่เห็นในหนังโป๊ เอ๊ย เหมือนครั้งที่ผ่านๆมา จริงๆผมชอบนะขูดหินปูน ปกติที่ติดใจโรงพยาบาลยันฮี เพราะเคยทำแต่ที่นี่แล้วคุณหมอเค้าก็ทำดี แบบว่ามือเบา มาคราวนี้ โอ้โฮ ไม่รู้คุณหมอหงุดหงิดอะไรมาหรือเปล่า หรือว่าหินปูนหมักหมมในปากเยอะไปหน่อยก็ไม่ทราบ เลยโดนซะยังกะคนงานก่อสร้างมาขุดเจาะในปากแน่ะ แถมนานมากกว่าจะได้บ้วนปากสักที เล่นเอาเมื่อยปากไปหมด ระบมกันเลยทีเดียว กลับมาจับไข้ ต้องซัดพาราไปสองเม็ดเลย ? เมื่อคืนเข้านอนไว ยังรู้สึกผวาๆอยู่เลย เหมือนมีใครเอาอะไรมางัดปาก ขูดๆซอกฟัน มันเหมือนภาพติดตาน่ะ ขนาดเค้าเอาผ้าคลุมตาไว้แล้วนะเนี่ย ? เรียกว่าติดอยู่ในประสาทสัมผัสมากกว่ามังครับ

ป.ล. ยาวไปแล้ว ไว้อัพบล็อคใหม่วันหลังละกันนะครับ คุยกันต่อเชิญคลิกมาบ้านผมได้

www.pandagroup.pantown.com

วันอังคารที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553

The A - Team .... โคตรทีมมหาประลัย ~ ??

The A - Team ( สามดาว )

.........................ผมเองไม่ใช่คอหนังแอคชั่น แต่ก็ไม่เคยปฏิเสธหนังที่สร้างจากหนังสือการ์ตูนหรอกนะครับ แต่ถ้าเลือกได้ หนังแนวนี้ก็คงไม่ใช่ตัวเลือกอันดับแรก ถ้าจะต้องดูหนังในโรงสักเรื่อง ? ด้วยเหตุผลที่ว่า หนังบู๊ส่วนใหญ่มันยากที่จะสร้างความแปลกใหม่ หรืออะไรที่มันสร้างสรรค์ได้มากนัก แถมผู้กำกับหลายๆคนยังกำกับไม่ค่อยดีเท่าไหร่อีกด้วย เพราะงั้นถ้าดาราไม่โดนใจ หรือฟอร์มไม่เจ๋งจริงๆ โอกาสที่จะตีตั๋วเข้าไปดูหนังบู๊แอคชั่นสำหรับผมนั้นบอกได้เลยว่ายิ่งกว่าน้อย และการที่เช่าหนังแนวนี้มานอนดูอยู่บ้านก็เป็นอะไรที่เพลิดเพลินดีกว่าเสี่ยงไปดูในโรง ในช่วงที่ค่าตั๋วหนังมันแพงแสนจะแพง ? ซึ่งโดยมากผมก็จะคิดถูก ปีๆนึงผมจะดูหนังแอคชั่นในโรงน้อยมาก แม้จะมีคนบอกว่าหนังฟอร์มยักษ์แบบนี้ ต้องดูโรงถึงจะมันส์ แต่ผมว่าถ้าต้องมาทนดูอะไรซ้ำๆซากๆ ผมขอนอนเล่นอยู่บ้านหรือเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ จริงๆหนังมันก็ดีอยู่นะครับ

..........................The A Team รู้สึกจะสร้างจากการ์ตูน ใช้ผู้กำกับหน้าใหม่ แต่ฝีมือในการกำกับฉากบู๊ ถือว่าทำได้ดีกว่ามาตรฐาน เปิดฉากมาก็มันส์กันตั้งแต่ต้นเรื่อง ช่วงแนะนำตัวละครทำได้ดี แล้วก็ยัดๆฉากแอคชั่นนันสตอปเข้ามาติดๆกันจนนึกว่า ไมเคิล เบย์ กำกับ มีฉากระเบิดภูเขา เผากระท่อมมากมาย ช่วงที่ใช้โมเดลแอคชั่น ภาพช่วงวางแผน สลับกับภาพปฏิบัติการณ์จริง ถือว่าเล่าได้ตื่นเต้นใช้ได้ครับ เสียดายว่าช่วงครึ่งหลังหนังค่อนข้างเนือยๆไปนิดนึง เนื่องจากคนดูคงจะเหนื่อยกับการลุ้นฉากแอคชั่นเว่อร์ๆซึ่งใส่เข้ามาเต็มพิกัดไปหน่อยในครึ่งแรก !! จริงๆมันก็ไม่ได้ถึงกับน่าเบื่อนะครับ แต่ประเด็นหักหลังหักมุม หรือการกลับมาพิสูจน์ตัวเองของฝ่ายธรรมะ ก็เป็นอะไรที่รู้ๆกันอยู่ว่าต้องเกิดขึ้น การลุ้นเอาใจช่วยให้ฝ่ายดี เอาชนะผู้ร้ายมันก็เลยถดถอยลงไป ด้วยความที่ทีมพระเอกเก่งเกินมนุษย์มนา ต่อให้ผู้ร้ายจะเจ๋งแค่ใหน แต่เราก็รู้ๆกันอยู่ว่าหนังมันไปจบอย่างไร คือไม่มีลุ้นเลยว่าทีมพระเอกจะพลาดได้อย่างไร ??

..........................ทีมนักแสดงเรื่องนี้ถือว่าแข็งปั๋งใช้ได้ เริ่มตั้งแต่ ผู้พัน เลียม นีสัน อดีต " Rob Roy " เจ้าของผลงานกระฉ่อน ตอนไปช่วยลูกสาวที่ฝรั่งเศส จนคอหนังติดตาติดใจไปตามๆกัน มากับลูกน้องหน้าใหม่สองคน หน้าคุ้นอีกคน ได้แก่ คริส คูเปอร์ พ่อหนุ่มหน้าหล่อที่เล่นหนังติดกันหลายเรื่องแล้วพักนี้ ส่วนผู้ร้ายได้ แพทริค วิลสัน สุดหล่อผัว kate winslet ใน Little Children มาเล่นบทร้าย แถม Jessica Biel มาเพิ่มความเซ๊กซี่ให้กับตัวหนัง ซึ่งก็ช่วยได้พอสมควรครับแต่บทน้อยไปนิด อยากให้เป็น Jessica Alba มากกว่ารายนั้นเซ๊กซี่ตัวแม่ !! คาแรคเตอร์แต่ละคนก็เก่งไปคนละแบบ สีสันโดดเด่นทุกคนเลยครับ ชอบที่หนังใส่มุขตลกได้ถูกจังหวะบ่อยๆ ทำให้นอกจากได้ความมันส์แล้วก็ยังได้ความฮาไปด้วยพร้อมๆกัน งานตัดต่อทำได้กระชับฉับไว พ่วงด้วยดนตรีประกอบเร้าใจมันส์ๆทำให้คอหนังแนวนี้น่าจะถูกอกถูกใจครับ สำหรับคนที่ไม่ใช่คอแอคชั่นอย่างผม ก็ยังพอนอนดูไดเพลินๆ ไม่หลับไปซะก่อนหนังจบครับ ~

ป.ล. เพิ่งดู Kick Ass เหมือนกัน ไม่ชอบเอาซะเลย เพราะหนังรุนแรงเกินเหตุ แถมยังจับประเด็นอะไรได้ไม่ชัดเจนด้วย นอกจากความวิปลาสของตัวละคร !!

www.pandagroup.pantown.com



วันพฤหัสบดีที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2553

~ ชีวิต ... มีอะไรให้ทำอีกเยอะแยะ ~


.....................เปิด Saw 6 ดูซ้ำไปด้วยขำๆ หลอกล่อชาวบ้านเพื่อนฝูงให้ดูทีวีกันสักหน่อย แล้วเราก็พิมพ์อะไรไปเรื่อยเปื่อย เหมือนเป็นหนังไร้สาระ แต่จริงๆก็มีสาระสอดแทรกอยู่นะครับว่า คนเราควรจะเห็นคุณค่าของชีวิตทุกนาทีที่ผ่านไป คนใหนไม่เห็นคุณค่าของชีวิต ก็สมควรโดนจับไปเล่นเกมส์สยอง จะได้รู้จักเรียนรู้ซะบ้าง ? วันนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์เขียนบล็อคเท่าไหร่ แต่ก็ยังอารมณ์ดี เลยยังไม่อยากด่าใคร เมื่อคืนนอนดูหนังไปได้ เรื่องครึ่ง ได้แก่ สามย่าน กับ Repo Man อีกแผ่นนึง หรือครึ่งเรื่อง ง่วงแสนง่วง ตอนเช้าโดนปลุกขึ้นมาเร็วอีก นึกว่ามีอะไร ที่ใหนได้ แค่มีข่าวนักฟุตบอล บุรีรัมย์ กับ ทหารบก ต่อยกันนัวเนียในแมทซ์ เอฟเอ คัพ เมื่อวานนี้ นึกว่ามีไร

.....................สามย่าน จริงๆแล้วก็ไม่ได้ห่วยอะไรมากมายนะครับ แต่มันก็ไม่ดีอย่างที่คิดไว้ หนังเป็นเรื่องสั้นสามเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่หลวมๆ ใช้ผู้กำกับสามคน ทำหนังคนละแนว แต่โดยภาพรวมยังทำออกมาได้ไม่ดีเท่าไหร่นัก ชอบอยู่ตอนเดียวคือตอนแรก ผีบนรถทัวร์ คิดว่าน่าจะเป็น คุณพิง ลำพระเพลิงกำกับ แต่กลิ่นกับลายเซ็นต์มันไม่ชัดเจนเอาซะเลย ผมนึกว่าเป็นยุทธเลิศ กำกับซะด้วยซ้ำ ? หนังฮามาก บ้ามากๆกล้าเล่นกับมุขพิเรนๆ อย่าง ผีสาวโดนไวเบรเตอร์ ไอ้ห่า ทำไปได้ ? แต่ขำว่ะ !! ส่วนอีกสองตอนค่อนข้างน่าเบื่อ มือปืนหำสั้น ที่ บิ๊ก ทองภูมิ เล่น ก็เหมือนจะออกมาดี แต่จริงๆหนังไม่ค่อยมีอะไรเลย มุขก็จืดๆ วิธีเล่าก็มาแบบทุนต่ำเกินเหตุ แต่ก็ยังพอทนดูได้

.....................ตอนสุดท้าย ของ โก๊ะตี๋ ยังมีปัญหาอยู่เยอะมาก แล้วก็ไม่ขำด้วย ทั้งๆที่จริงๆถ้าเล่นเกี่ยวกับมุขตลกเบื้องหลังกองถ่าย น่าจะหาเรื่องราวอะไรสนุกๆมาเล่นได้มากกว่านี้เยอะ มันฝืด อืด น่าเบื่อ แป๊ก ผมว่าโก๊ะตี๋ไม่ควรจะมากำกับหนังแล้วล่ะ คงเอาดีทางนี้ไม่ได้ สู้เอาเวลาไปเล่นหนังอย่างเดียวจะเหมาะกว่าครับ !! ส่วน Repo man มาด้วยดาราอย่าง จู๊ด ลอว์ และนักแสดงออสการ์ ฟอเรสท์ วิเทเกอร์ เรื่องของฝ่ายทวงหนี้ที่คอยตามทวงอวัยวะเทียมคืนจากลูกค้าแบบโหดๆ หนังก็ยังชวนให้ติดตามนะครับ แม้จะดูเหลือเชื่อและไม่ค่อยน่าจะเป็นไปได้เท่าไหร่ ว่าทำไมกิจการแบบนี้ถึงได้มีกฏหมายอนาคตรองรับได้ แต่ยังดูไม่จบเลยไม่อยากวิจารณ์มาก ไว้คืนนี้คงได้ดูต่อ

www.pandagroup.pantown.com


วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

~ Swing Girls .... จงสนุกกับทุกๆวันของชีวิต ~

Swing Girls ( สาวสวิง กลิ้งยกแก๊งค์ ) .... 3 ดาว ....

.........................Swing Girls ไม่ใช่หนังเกี่ยวกับสาวที่ชื่นชอบเซ๊กส์แบบ สวิงกิ้ง แต่อย่างใดนะครับ แต่เป็นหนังญี่ปุ่นแนว Feel Good โดยธรรมชาติ ในแบบที่ค่ายหนังเฮงซวยของเมืองไทยค่ายนึงที่พยายามทำหนังแนวนี้ แต่แม่งไม่เคยทำออกมาได้ดีสักเรื่อง ( ห่วย ) แล้วก็ไม่เป็นการพูดเกินไป ถ้าหากจะหยิบหนังเรื่องนี้ไปเทียบเคียงกับหนังเรื่อง Hula Girls ซึ่งเป็นหนังญี่ปุ่นแนวทางคล้ายคลึงกัน ที่ออกมาในปีก่อนหน้านั้น ทว่าอาจจะยังทำออกมาได้ไม่น่าประทับใจเท่าเรื่องนั้น ? มองโดยหน้าหนังภาพรวม ผมคิดว่าหนังไม่น่าจะสนุก ซึ่งก็เป็นความคิดที่ผิด เช่าหนังเรื่องนี้มาตั้งหลายวัน ไม่กล้าเปิดดูสักที จนคุณนายแกเปิดดูก่อน เลยต้องมาเริ่มดูด้วยกัน ผลก็คือผมชอบหนังเรื่องนี้ แม้ว่ามันจะมีข้อบกพร่องเยอะมาก ไม่สมเหตุผลหลายช่วง ติดจะโอเวอร์แบบการ์ตูนด้วยซ้ำ แต่โดยองค์รวมมันทำให้เรารู้สึกดีมากๆ แล้วก็สนุกไปกับเรื่องราวจริงๆ ~

.........................เด็กสาวกลุ่มนี้เดิมทีก็ไม่ได้รักดนตรี แต่จับผลัดจับผลูเข้ามารวมตัวกันเล่นวงโยธวาทิต ก่อนจะผันตัวเองไปเล่นวงดนตรีแจ๊ซชุดใหญ่ ซึ่งถ้าให้พูดตรงๆก็คงเป็นเรื่องยากมากๆที่จะฝึก คนที่ไม่มีพื้นทางดนตรี ให้เล่นเป็น และเล่นเก่งในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ตรงนี้ผมยกประโยชน์ให้ เพราะมันคือหนัง อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ในโลกภาพยนตร์ หัวใจของหนังมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น หนังเรื่องนี้บอกเราหลายอย่าง ไม่ว่าคุณจะไม่มีพรสวรรค์ ไม่ว่าคุณจะไม่ได้เกิดมาเพื่อมัน แต่ถ้าคุณตั้งใจ และถ้าคุณเริ่มรัก คุณก็สามารถทำสิ่งดีๆ หรือสร้างสรรค์อะไรดีๆขึ้นมาได้ อย่างเรื่องแจ๊ซ แม้แต่คนที่เล่นดนตรีไม่เป็น ก็อาจจะสนุกและมีความสุขไปกับมันได้ และรวมถึงคนบางคนที่ ไม่มีพรสวรรค์ ไม่มีความรู้ แต่ก็อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครอีกหลายคน ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลง และทำอะไรบางอย่างที่แม้แต่ตัวเค้าเองก็คาดไม่ถึงได้เช่นกัน ? ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ !!

.........................ดนตรี Jazz อาจจะเป็นเรื่องไกลตัว เช่นเดียวกับ ความสุขในชีวิต กับคนบางคนก็ดูเหมือนห่างไกลเหลือเกิน ทั้งๆที่จริงๆแล้ว ความสุข ความทุกข์ มันล้วนอยู่ที่มุมมองของเรานั่นแหละครับ ถ้ามองให้สุข มันก็สุข ถ้ามองให้ทุกข์มันก็ทุกข์ คนบางคนจ่อมจมอยู่แต่กับความทุกข์ คิดอะไรแต่ด้านลบ แบบนั้นชีวิตมันจะพบเจอสิ่งดีๆ เจอความสุขได้ไงกันล่ะครับ ? การจับจังหวะดนตรี ก็ไม่ต่างจากการจับจังหวะชีวิต เพียงแต่เปลี่ยนมุมมองสักหน่อย จับจังหวะให้มันอยู่ แค่นี้ชีวิตก็มั่นคงแล้วครับ เช่นเดียวกับตัวละคร ที่พยายามคร่ำเคร่งซ้อมกันมากๆเท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่เข้าใจความหมายของแจ๊ซซะทีเดียว จนวันนึงเมื่อจิตใจปรอดโปร่ง แค่ฟังเสียงตรงไฟแดงข้างถนน แค่นั้นก็จับจังหวะเป็นแจ๊ซได้แล้ว ดนตรีถ้าเล่นให้สนุก คุณก็จะทำมันได้ดี เล่นได้เพราะ ชีวิตก็เช่นเดียวกันครับ ถ้าคุณรู้จักสนุกกับชีวิตสักหน่อย ชีวิตคุณจะเพลิดเพลินขึ้นอีกมากทีเดียว ~

.........................สาวๆทั้งๆทีมที่ร่วมนำแสดงในหนังเรื่องนี้ ทำหน้าที่กันได้ดี แต่ด้วยความที่มีตัวละครเยอะมาก ก็เลยต้องแบ่งความโดดเด่นกันไป น่าเสียดายที่ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งโดดเด่นขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด และกลุ่มตัวเสริมก็มาแบบ มาง่ายไปง่ายเกินไปนิด บางคาแรคเตอร์ในหนังก็ดูเตะตาดี แต่เผอิญว่าดูจอเล็กมันก็เลยทำให้การสังเกตุเป็นได้ยากกว่าดูในจอใหญ่ เพลงแจ๊ซที่เลือกมาใช้ในหนัง ก็กำลังดี เป็นเพลงสนุกๆ ไม่เอาเพลงล้ำเกินไป ฟังแล้วติดหู โดยเฉพาะฉากไคลแมกซ์ช่วงท้ายทำได้น่าประทับใจกว่าที่คิด อารมณ์ขันในหนังมีอยู่ในสัดส่วนกำลังดี ฉากง่ายๆถ้าเล่นให้เป็น มันก็ดูแล้วขำนะครับ บางครั้งในหนังบางเรื่องเค้าตั้งใจมากไปให้ขำ ดูยังไงก็ไม่ขำ อย่าให้ต้องยกชื่อผู้กำกับหรือชื่อค่ายหนังเลยครับ เด๋วจะสะเทือนใจกันอีก ? ฉากหลังของหนังเรื่องนี้ก็สวยมากๆ รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆของหนังก็ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศ feel good ได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะครับ .. ใครไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ก็ลองไปหามาดูนะครับ ไม่ผิดหวังหรอก ~

www.pandagroup.pantown.com


วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

~ เทคนิคสู่การเป็นยอดนักขายชั้นเลิศ ~

.................ผู้เขียนอาจจะไม่ใช่สุดยอดนักขายหมายเลข 1 นะครับ แต่เนื่องจากพอจะมีเวลาว่างบ้าง ก็เลยแวะมาแนะนำเทคนิคเล็กๆน้อยๆ สำหรับเพื่อนๆที่เป็นนักขายเหมือนกัน เผื่อจะเก็บเอาไปเป็นข้อคิด เสริมสร้างรายได้ให้ตัวเองมียอดขายมากยิ่งขึ้น จากประสบการณ์การทำงานร่วม 15 ปี ผู้เขียนก็พยายามประยุกต์ตัวเอง และปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทดลองการขายในรูปแบบต่างๆ จนประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งครับ จากตัวเลขรายได้ ที่เป็นที่อิจฉาของน้องๆ ซึ่งจริงๆแล้วผมก็ปล่อยๆให้น้องๆเขาบ้างเหมือนกันนะครับ การทำงานร่วมกัน ก็ต้องมีการแบ่งปัน มีน้ำใจให้กันบ้าง อย่างถ้าเราได้เยอะๆ เราก็ต้องรู้จักหยุด ต้องแบ่งให้น้องๆเค้าได้ยอด ได้ตังบ้าง จะกอบโกยอยู่คนเดียว มันก็อยู่ร่วมกับคนอื่นได้ลำบาก ... เงินทองของนอกกาย แต่ใครก็อยากได้

.................งานขายของหน้าร้าน ถือว่าเป็นงานที่ง่ายกว่า เซลส์แบบต้องออกเดินหาลูกค้ามั่กๆ สิ่งที่เราต้องทำก็แค่ ขยัน และ ช่างสังเกตุ !! ถ้าคุณขยันมาก คุณก็ได้มาก แต่บางครั้งปริมาณก็ไม่สำคัญเท่าคุณภาพ ความสามารถเฉพาะตัวต้องงัดออกมาใช้ครับ ตอแหล๋ ได้ก็ตอแหล๋ไปเยอะๆ ถ้าขวนขวายภาษาอื่นให้ได้เยอะๆ คุณก็จะยิ่งได้เปรียบ เช่นภาษาจีน เวียดนาม รัสเซีย หรืออะไรพวกนี้ ถ้ายิ่งคล่อง เวลาเจอลูกค้าต่างชาติพวกนี้ คุณจะตบทรัพย์เค้าได้เยอะทีเดียวล่ะครับ ส่วนภาษาอังกฤษ พื้นๆนี่ทุกคนต้องได้อยู่แล้ว มันไม่ได้เปรียบเท่าไหร่หรอกครับ อีกอย่าง ลูกค้าฝรั่งไม่ค่อยซื้อของเราเท่าไหร่ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าลูกค้าเป้าหมายหลักคุณเป็นฝรั่งที่พูดอังกฤษ คุณก็ต้องฝึกให้คล่องนะครับ !! แต่เชื่อหรือไม่ครับ ลูกค้าที่มักจะมีปัญหาที่สุด และเรื่องมาก เอาใจยากที่สุด ก็คือ ลูกค้าคนไทยนั้นเอง ลองไปถามผู้ให้บริการทั่วประเทศดูได้ ไม่ว่าห้างร้าน โรงแรม สายการบิน ฯลฯ

.................ถ้าปราบลูกค้าไทยได้ คุณก็เอาลูกค้าทุกสัญชาติได้อยู่หมดแหละครับ เพราะคนไทยนี่คือสุดยอดของความจุกจิก เจ้าปัญหา เรื่องมาก แต่ถ้าบทจะเจอลูกค้าคนไทยดี พวกนี้ก็ดีใจหายเลยครับ ดีจนน่าขนลุก ? สมมุติว่าลูกค้าเค้ามา สิบคน หรือร้อยคนเนี่ย คุณต้องเล็งให้ดี พยายามเลือกและใช้สัญชาติญาณ หรือความสามารถต่างๆของคุณ ประเมินให้ได้ว่า คนใหนคือลูกค้า และคนใหนไม่ใช่ลูกค้า เป็นพวกมาเดินดูเฉยๆ งานนี้คุณจะอาศัยโชคอย่างเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความสามารถและประสบการณ์ด้วยครับ !! ต้องใช้คำถามฉลาดๆ และอาศัยเก็บรายละเอียด การโต้ตอบ และการแสดงออกของลูกค้า ถ้าคุณจับได้ว่าคนใหนไม่ตั้งใจซื้อ ก็จงทิ้งไปซะ หาทางชิ่งให้ได้โดยไวที่สุด และถ้าคนใหนมีแววว่าต้องการซื้อของ ก็จงจับให้มั่น และปิดการขายให้ไวที่สุด !!

.................โปรโมชั่นต่างๆของร้าน และของสินค้า คุณต้องแม่นยำครับ ส่วนลดอะไรเท่าไหร่ หรือว่า สินค้าตัวใหนมีค่าเชียร์ ค่า incentive อะไรพิเศษมากน้อยเท่าไหร่ คุณต้องรู้ จะได้เชียร์ถูก ส่วนใหญ่ตัวที่มีค่าเชียร์มักจะขายยากกว่าตัวปกติ เพราะงั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณล่ะว่าจะนำเสนอสินค้าอย่างไร และปิดการขายให้ได้อย่างไร ? นักขายที่ดีไม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกค้าสงสัยหรือซักถามอะไรมากนัก ต้องพยายามนำเสนอแบบไวสุดๆ และพยายามจี้ข้อดีของสินค้า และชักจูงโน้มน้าวให้ลูกค้าตัดสินใจซื้ออย่างเร็ว เพราะยิ่งเนิ่นนานออกไป ลูกค้าก็จะเกิดความลังเล และสุดท้ายก็อาจจะไม่ซื้อสินค้าจากเรา ? ถ้าเลือกได้ อย่าเทคลูกค้าที่มาแบบครอบครัวใหญ่ เพราะมากหัวก็มากเรื่อง เทคลูกค้ามาเดี่ยว หรือมาเป็นคู่ผัวเมียจะง่ายกว่ากันเยอะครับ แต่ถ้าเป็นกรุปทัวร์ ต้องดูสัญชาติด้วยครับ บางชาติก็จะซื้อตามๆกัน เราก็ต้องอย่าปล่อยให้เพื่อนเทคคนเดียว ต้องเสียบ

( ต่อวันหลังนะครับ )
www.pandagroup.pantown.com

วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

20 th Century Boy 3 .... ไตรภาคดวงตาวิบัติถล่มโลก ในที่สุดก็จบซักที ?

20 th Century Boy 3 ( มหาสงครามวิบัติ ดวงตาถล่มโลก ) .... 2 ดาวครึ่ง ....

........................โคตรโหดครับ บอกได้คำเดียว เพราะหนังฟอร์มยักษ์ แอคชั่นไซไฟ ไตรภาคที่สร้างจากการ์ตูนดังที่ผมเกิดไม่ทันเรื่องนี้ ( หมายถึงมันถูกเขียนขึ้นในยุคหลัง จากที่ผมเลิกอ่านการ์ตูนไปแล้ว ) มันแบบว่า " มหากาพย์ " มากๆๆ คือเป็นหนังทุนสูงที่มีเรื่องราวเยอะ แล้วก็หั่นให้มันเหลือสั้นๆไม่ได้ ตรงนี้ผิดกับหนังอย่าง Lord of the Rings ที่ผมมองว่า เนื้อหาน่าจะหั่นได้ให้สั้นลง แต่เรื่องนี้เท่าที่มองๆดู หั่นยากครับ มันก็เลยถูกสร้างออกมาเป็น หนัง 3 ภาค ซึ่งแต่ละภาค ก็ยาวๆในตัวกันทั้งนั้น อย่างภาคสุดท้ายนี้ ปาเข้าไปเกือบ 3 ชั่วโมงนะครับ แม่เจ้า ตอนที่ผมเริ่มเปิดดูก็รู้สึกเพลียๆ เมื่อยล้ามากๆอยากหลับ แต่ก็ต้องทนดูตั้งแต่ สามทุ่มนิดๆ ไปจบเอาตอนเที่ยงคืน ทั้งๆที่คิดว่าหนังน่าจะจบสัก 5 ทุ่ม เพราะไม่คิดว่าหนังจะยาวเกินมาตรฐาน !!

........................ภาคสุดท้ายนี่กินเวลาข้ามไปในยุคอนาคต เหตุการณ์ผ่านไปเกือบ 20 ปี เป็นรุ่นลูกๆของตัวละครเอกกันแล้ว แต่ทีมตัวเอกก็ยังไม่ตายกันนะ เล่นกันตั้งแต่เด็กจนแก่เชียวล่ะ หนังหาเหตุผลของเรื่องราวทั้งหมด ไปสู่บทเฉลยได้อย่างมีเหตุผลพอประมาณครับ แม้เหตุการณ์รายล้อมหลายอย่างยังยากที่จะเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นจริงๆได้ แต่ก็อย่างว่าแหละครับ นี่มันการ์ตูนนี่นา จริงๆหนังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ดูเข้าท่านะครับ เพียงแต่วิธีการที่หนังเลือกมา กลับทำให้มันดูน่าขบขัน เพราะหนังไม่เน้นความสมจริง แต่เน้นให้มันแหวกจนดูหลุดโลกมากๆ เช่นคอสตูมของฝ่ายกองทัพเพื่อน ? น่าตลกที่ ขบวนการเพื่อน ก่อการวุ่นวายจนโลกกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ แต่ขบวนการต่อต้านเพื่อน ถึงได้มีกำลังแค่หยิบมือนึง แล้วขบวนการที่อยู่ต่างประเทศล่ะ ไม่มีใครทำอะไรเลยเหรอ งอมืองอเท้า แล้วเพื่อนจะบงการควบคุมโลก ควบคุมประเทศอื่นๆอย่างไร ไม่เห็นบอก

........................ดูเหมือนหนังจะพยายามขายเพลง และความหมายของบทเพลงที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจผู้คน แต่ประเด็นนี้ดูเหมือนเลื่อนลอยเอามากๆ เพราะผมไม่เชื่อเลยว่า เพลง กูตาลาลา บ้าบออะไรเนี่ย จะทำให้ประชาชนที่ใหนมีอารมณ์ร่วม ในช่วงเวลาของความเสื่อมสลายแบบนั้น บทเพลงเพลงเดียว จะมีอิทธิพลต่อจิตใจผู้คนได้จริงหรือ ? ถ้าบอกว่า ตำราศาสนา มีอิทธิพลต่อจิตใจผู้คนอย่างหนังเรื่อง Book of Eli ยังดูจะน่าเชื่อกว่า ? จุดหนึ่งที่หนังนำเสนอได้น่าคิดก็คือ คนๆหนึ่งที่อาศัยเล่ห์กล หรือมอมเมาให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความเชื่อ เกิดความเลื่อมใสศรัทธาได้เนี่ย สามารถทำร้ายและทำลายโลกและมนุษย์ชาติได้รุนแรงขนาดใหน ? อาจจะดูเหมือนเว่อร์ แต่โลกนี้ก็ยังเคยมีคนอย่าง " ฮิตเล่อร์ " หรือแม้แต่ไอ้พวกปลุกม๊อบอย่าง ไอ้สัตว์ สนธิ ไอ้สัตว์จำลอง และอีกหลายตัวที่อาศัยความโง่ของผู้คน สร้างประโยชน์ให้กับตัวเองอยู่เรื่อยๆ

........................ตัดเรื่องเทคนิคพิเศษออกไป ตัดความเป็นแอคชั่นไซไฟออกไป บทเฉลยของหนังเรื่องนี้มันอยู่ตอนท้าย ซึ่งถือว่าเป็นการคลี่คลายปมที่น่าตกใจพอสมควร มันเป็นอะไรที่ดราม่ามากๆๆ ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ความวิกลจริต ของคนๆนึงที่ส่งผลให้คนทั้งโลกต้องล้มตายไปหลายพันล้านคน เกิดมาจากเหตุการณ์เล็กๆที่ใครต่างนึกไม่ถึง การตกเป็นเหยื่อถูกทำร้าย ถูกกลั่นแกล้งของสังคม ทำให้เด็กคนหนึ่งเติบโตขึ้นมาอย่างวิกลจริต !! ทำให้เด็กบางคนถึงกับต้องคิดสั้น ฆ่าตัวตาย !! โลกเรามันก็โหดร้ายแบบนี้แหละครับ ดีแต่โทษกันไป โทษกันมา แต่จะมีสักกี่คนที่กล้ายอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ไอ้ชั่วหลายคนบนโลกใบนี้ ก็ชอบซะเหลือเกินที่จะให้คนอื่นมาขอโทษตัวเอง หรือขอโทษคนอื่น ทั้งๆที่ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่า สิ่งที่ตัวเองทำมันก็ไม่ได้ดีเด่กว่าคนอื่นเขา ? " เพื่อน " ก็ไม่ต่างจากพวกที่ใช้นามแฝง แอบอยู่ตามซอกหลืบของโลกไซเบอร์เพราะแอบด่าทอกันมันง่ายกว่า การถอดหน้ากาก เข้ามาพูดคุยกันดีๆแบบผม จริงใหมล่ะ ไอ้หน้าตัวเมีย

www.pandagroup.pantown.com


วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

........วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อนที่อบอุ่นสำหรับครอบครัวอีกวัน เพราะคุณย่ามูวี่และคุณนกพี่เลี้ยง ได้มาพักค้างกันที่บ้านเรา ตอนเช้าก็พากันไปให้อาหารปลา กะว่าจะไปตัดผมแต่ร้านตัดผมดันปิด ก็เลยไม่ได้ไปใหนกัน แวะไปฝั่งนวนคร ไปสมัครสมาชิกร้านพิซซ่า ซื้อ 1 แถม 1 แล้วก็รอสั่งพิซซ่าหน้าซีฟู๊ด กับ ทรอปปิคคอลซีฟู๊ด มาทานกันที่บ้าน หมดไป 849 บาท รวมค่าสมัครบัตร ก็รูดบัตรเอาคุ้มค่านะครับ ทานกันสี่คน ทานกันแทบไม่หมด ชวนเพื่อนบ้านมาทานด้วยอีกคน คุณพร ส่วนมูวี่มาทานตอนเย็น ก็คุณย่าแกชอบทานพิซซ่าน่ะครับ ก็เลยต้องเลี้ยงพิซซ่ากันบ่อยๆหน่อย ทานกันจนอิ่มแปร้กันเลยทีเดียวเชียว

........ช่วงบ่ายก็นอนพักผ่อน ดูทีวีกัน แวะไปส่งคุณนายจัดการเรื่องหวย แล้วก็รีแลกซ์อยู่บ้าน เย็นๆก็ไปซื้อกับข้าวมาทานร่วมกันทั้งครอบครัว อิ่มอร่อยไปตามๆกัน ส่วนคุณนายกับคุณนกรู้สึกจะกินปลาเผากัน จริงๆเดิมทีกะว่าจะไปตลาดไท ไปเอาปลานิลมาเผากันแบบเป็นสิบตัว แต่ผมขี้เกียจ แล้วก็คิดว่า มันจะเหนื่อยและยุ่งยากเกินไป เลยคิดว่าเอาพิซซ่าดีกว่า ง่ายสะดวกกว่ากันเยอะเลย พรุ่งนี้ก็กลับไปทำงานแล้วครับ คงจะเอาย่าไปส่งตอนเช้า หรือไม่ก็ไปส่งกันตอนดึกวันนี้แหละ เด๋วคิดดูก่อนว่าจะเหนื่อยหรือเปล่า เพราะใจผมไม่อยากไปส่งตอนเช้า รถมันติดน่ะครับ ขับรถดึกๆน่าจะสะดวกกว่า ถ้าไม่ติดว่าอาจจะลำบากนิดหน่อย

www.pandagroup.pantown.com




วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2553

~ แอดมินเวปถ่อย ที่เที่ยวชี้หน้าด่าผู้หญิงน่ารักนิสัยดีอย่างน้อง dfh ว่า บ้า ... กูว่ามึงน่ะ เหี้ยเกินไปแล้ว !! ~

................เดิมทีไม่เคยคิดอยากเสียเวลา ลดตัวลงไปด่าเวปสัตว์นรกเวปนึง ที่มีแอดมิน หรือคนดูแลเวป มีหน้าที่การงานดีขนาดเป็น หมอ แต่พอดีเพิ่งมีคนส่งข้อความต่ำๆของสัตว์นรกตัวนี้มาให้อ่าน อ่านแล้วก็อดตกใจไม่ได้ นี่เหรอวะ คนเป็นหมอ สงสัยจะเป็น " หมอผ่าไข่หมา " จริงๆอย่างที่เขาว่ากัน .. แม่ง หมอที่ใหนจะมีเวลาว่าง มานั่งดูคนทะเลาะกัน แล้วก็เที่ยวตีไข่ใส่สี ยำใหญ่ แล้วเที่ยวยุยงชักชวนคนอื่นให้มาดูคนทะเลาะกัน แม่ง จิตใจหมอตัวนี้มันคงเสื่อมฉิบหายเลย สงสารคนไข้ กับคนที่อยู่ใกล้ชิดมันจริงๆ น่าจะพาไปให้จิตแพทย์บำบัดบ้างได้แล้ว !!

................ถ้าอาชีพอย่างมันมีเวลาว่างมาก น่าจะไปทำประโยชน์ให้สังคมมากกว่า ทำตัวเสื่อมๆแบบนี้ เห็นแล้วมันทุเรศฉิบหายเลยว่ะ แล้วไอ้พวกสาวกของนายชาติชั่วรายนี้ ที่ยังคอยเป็นแข้งเป็นขา คอยเชลียร์มัน นี่ก็อุบาทว์จริงๆ จิตใจหยาบทรามต่ำช้าได้อีก มีแต่พวกเดนคนแบบนี้มิน่าประเทศนี้มันถึงดูหนักๆยังไงชอบกล ? เออ แล้วขอบอกอะไรอีกอย่าง ไอ้พวกที่ประกาศตัวว่าไม่ใช่เกย์ เกลียดเกย์ อะไรเนี่ยน่ะครับ แต่ปากแรงยิ่งกว่าชะนี เที่ยวเขียนข่าวยุแยงให้คนตีกันให้หนักเนี่ย ดูยังไงก็สันดานเกย์ครับ ต่อหน้าก็แอ๊บว่าเกลียดเกย์ ลับหลังแหม๋ เรียกชาวปาล์มมากระแทกตูดไม่ยั้งเลยนะจ๊ะ ระวังจะเป็นข่าวลงเวปถ่อยของตัวเองซะเองล่ะจ๊ะ เตือนไว้ก่อนนะ ~

................เคยคิดจะอัพบล็อคเม๊าท์พวกถ่อย เหมือนคอลัมน์ซ้อเจ็ดเหมือนกัน แต่คิดไปคิดมาคิดว่าสำนวนเรายังไม่เด็ดขาดพอ เอาไว้ก่อนดีกว่า ไว้มีอารมณ์เมื่อไหร่ อาจจะอัพบล็อคให้ซี๊ดซ๊าดกันทั้งบาง เพราะถ้ากูเล่นทั้งที พวกมึงได้หนาวตั้งแต่ ไอ้สัตว์ปลาวาฬ จนถึงไอ้วร ฯ ทีเดียวเชียวล่ะ หุ หุ !! อ้อ แล้วผมว่า ไอ้พวกถ่อยๆที่ตามเวปถ่อยๆของพวกมัน สัตว์ประเภทที่ว่า กล้าด่าคนอื่นทั้งๆที่ไม่รู้จักเขาดีพอ หรือด่าตามน้ำตามคนอื่นที่เลวเหมือนกันไปด้วยได้เนี่ย ... คงมีแต่พวกลูกกะหรี่ หรือพ่อแม่สมสู่กันเองเท่านั้นแหละ เห็นแล้วก็อยากจะช่วยมอบทางสว่างให้พวกสัตว์นรกพวกนี้เหมือนกันนะ แต่เราไม่มีเวลาว่างเหมือนท่านปิงเขา ก็คงได้แต่ปล่อยมันไป เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมอยู่แล้ว ... จริงใหมล่ะ ไอ้พวกลูกกะหรี่จากเวปถ่อยที่เข้ามาอ่าน ...

www.pandagroup.pantown.com

วันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2553

+ ภาพเมื่อครั้ง joblovenuk ประกบ เทพ dfh ( เทพเจ้าของชาวเวปสัตว์เลื้อยคลาน ) +

...... ภาพชุดนี้ถ่ายไว้นานแล้ว ตั้งแต่ต้นปี ตอนไปดูรอบแฟนคลับ หรือรอบปฐมทัศน์ หนังเรื่อง ตายโหง ของพี่พจน์ อานนท์ ที่ห้างเอสเอฟเซนทรัล ลาดพร้าว เคยโพสท์ไว้ในบล็อคเก่า แต่มันหายสาปสูญไปแล้ว เอามาโพสท์อีกสักรอบแล้วกัน เผื่อแฟนๆของเราทั้งสอง จะตามมาชม แล้วเซฟเอาไปบูชากันต่อที่บ้าน ก็ไม่ว่ากันครับ พวกเราคนของประชาชน ก็ยินดีอยู่แล้ว อิอิ จริงๆถ่ายไว้เยอะกว่านี้ แต่โพสท์ให้ชมกันบางส่วนนะครับ เอาไว้คราวหน้าจะโพสท์ภาพคู่กับท่านเทพ ตัวประกอบ ปิงปิง ให้ชมกันบ้างนะครับ แล้วถ้ามีโอกาส จะโพสท์ภาพทีม แบบว่า เราสองสามคน ให้ชมกันแน่นอน อดใจรออีกหน่อยแล้วกันนะครับ ของดีมีให้ดูกันไม่บ่อยหรอกนะครับ ชมภาพสวยๆชุดเต็มๆได้ที่บอร์ดแพนด้าเช่นเคยครับ

www.pandagroup.pantown.com














วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

+ นางเอก ฟ้าทะลายโจร .. ป่วยโรคประหลาด ถูกตัดขา น่าตกใจมากๆ +

....... ได้ข่าวแว่วๆวันก่อนจากรายการทีวี เสียดายเมื่อคืนผมลืมดูรายการตีสิบ ที่คุณสเตลล่า มาลูกี้ นางเอกสาวที่เคยเล่นหนังของ คุณวิศิษฐ์ เรื่อง ฟ้าทะลายโจร กับหนังของคุณสุเทพ เรื่อง องคุลีมาล ที่เป็นหนังดีทั้งคู่เลย แล้วนางเอกคนนี้ก็ไม่มีผลงานเรื่องอื่นออกมา เงียบหายไป ทั้งๆที่ก็หน้าตาดี และมีเสน่ห์อย่างแปลกประหลาด หนังสองเรืองนี้ก็ขึ้นหิ้งเป็นหนังคลาสสิก แม้จะทำเงินไม่เยอะ ทำให้คนรู้จักในวงแคบๆ แต่ฐานะที่เป็นหนังคุณภาพ และผมก็ได้ดูในโรงหนังทั้งสองเรื่อง ทำให้ผมจำหน้าตานางเอกหนังคนนี้ได้ถนัด พอมารู้ข่าวว่า ป่วยเป็นโรคประหลาด ถึงกับโดนตัดขา ก็อดตกใจไม่ได้ ในฐานะที่คนเคยเห็นหน้าเห็นตากันมา ไม่คิดว่าจะโชคร้ายถึงขนาดนี้ อ่านข่าวจากเดลินิวส์ เห็นว่าเค้าเป็นโรคแคลเซียมเยอะเกินไป

.......... พอร่างกายรับแคลเซียมเกินไป ทำให้มีผลกระทบต่อปอด ทำให้ปอดมีปัญหา ต้องใช้เครื่องอะไรสักอย่างเพื่อลดแคลเซียมและช่วยหายใจ แต่เครื่องอันนี้ก็มีผลแทรกซ้อนทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตัน ผลสุดท้ายต้องตัดขา และยังต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง อะไรจะซวยขนาดนั้นก็ไม่รู้ ก็ได้แต่อวยพรให้สุขภาพของคุณสเตลล่าจงดีขึ้นนะครับ และมีโอกาสได้มีงานทำ มีรายได้ และชีวิตเป็นไปในทางที่ดีขึ้นนะครับ ชีวิตพลิกผันขนาดนี้ น่าจะมีใครเข้าไปช่วยเหลือเกื้อกูลบ้างนะครับ ไม่เห็นเค้าระบุเรื่องข่าวครอบครัวเท่าไหร่ เห็นว่ามีลูกด้วย แต่ไม่ได้กล่าวถึงสามี มีแต่ด่าผู้หญิงที่ชอบแย่งสามีว่าเป็นคนไม่ดี สงสัยน้องเค้าจะโดนแย่งสามีด้วย น่าสงสารมากมาย แต่ชีวิตยังไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันต่อไปนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุกๆท่าน

www.pandagroup.pantown.com



วันอาทิตย์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2553

~ พักผ่อนวันหยุดด้วยการเที่ยว เกาะเกร็ด ~ ~

..............เคยไปมาแล้วสักครั้งสองครั้งหรือไงเนี่ย แต่ก็ไม่ได้ไปนานแล้ว เมื่อวานว่างๆเลยไม่รู้จะไปใหน ชวนที่บ้านไปเที่ยวเกาะเกร็ดดู เห็นว่าไม่ไกล อยู่แค่แถวๆปากเกร็ดนั่นเอง แต่ขับรถไปจริงๆก็ไกลนิดๆเหมือนกันนะ เด๋วนี้เกาะเกร็ดก็มีคนมาเที่ยวกันเยอะพอสมควรนะครับ น่าจะเยอะกว่าแต่เก่า มีเรือวิ่งข้ามฟากแทบจะทุกสามนาทีมั้ง ของก็ลามข้ามมาขายยังอีกฝั่งด้วยนะครับ แสดงให้เห็นว่ามีปริมาณนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ใครอยากละลายทรัพย์ก็ลองไปเที่ยวดูครับ

..............เกาะเกร็ดก็อยู่แถวปากเกร็ดนั่นเอง ขับรถเข้าซอยข้างๆเมเจอร์ฮอลลีวู๊ดปากเกร็ด เข้าไปหน่อยเดียว หรือจะขึ้นวินมอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปก็ได้นะครับ ไปลงหรือจอดรถตรงวัดอะไรสักอย่างด้านใน แล้วก็เดินขึ้นเรือข้ามฟากไป มีของให้ช็อปและทานกันตั้งแต่ฝั่งปากเกร็ดเลยด้วยซ้ำ พอข้ามไปยังฝั่งเกาะเกร็ด ก็ไม่ต้องพูดมากเลยครับ มีของให้เดินซื้อหาและเลือกชิม เลือกทานเยอะแยะไปหมดครับ เรียกว่าทานกันแทบไม่หวาดไม่ไหวทีเดียว ร้านอาหารริมแม่น้ำก็เยอะมากๆๆๆ

..............ใครจะไป ก็บอกได้เลยว่าหิ้วท้องไปเลยนะครับ แต่อย่าเพิ่งหิวจนหน้ามืดซะก่อน อย่ารีบเข้าร้านแรกๆ ควรจะลองเดินหลายๆร้าน ถ้าชอบชิมอาหารอร่อยๆ และบรรยากาศดีๆ เพราะถ้าหากคุณรีบเลือกทานร้านแรกๆที่อยู่ต้นซอยแล้ว อาจจะเสียดายทีหลังถ้ามาเจอร้านที่ดูดีกว่า มีของดูน่าทานกว่า ในร้านที่อยู่ลึกเข้าไปในซอยน่ะครับ ของว่าง ของทานเล่น ขนมไทย ของทานจริงจังมีให้เลือกซื้อหาแทบทุกอย่าง โดยเฉพาะที่ฮิตที่นี่ก็คือ ดอกไม้ทอด ผักทอด ที่รสชาติเยี่ยมมาก

..............เสียดายก็แค่ไม่ได้นั่งเรือชมวิวรอบเกาะ ที่เขาจะมีบริการทุกๆชั่วโมง ค่าบริการก็คนละ 60 บาทเท่านั้นเอง แต่ผมเห็นว่าฝนทำท่าจะตกแล้ว และพวกเราก็เหน็ดเหนื่อยกับการเดินทาง ช็อปและทานของกิน ก็เลยคิดว่ากลับบ้านดีกว่า คิดว่าถ้ามีโอกาสจะกลับไปเที่ยวอีกครั้ง เพราะคุณนายก็ชอบ หนูมูวี่ก็ชอบนะครับ ท้องฟ้าเมื่อวานค่อนข้างครึ้มๆ แต่กระนั้นพวกเราก็ยังร้อนมาก งานนี้ได้ตุ๊กแกตัวใหญ่ตามที่คุณนายแกอยากได้มาหลอกมูวี่พอดี ชมภาพกันดีกว่านะครับ

www.pandagroup.pantown.com
















วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Black Lightning .... เคยดูหนังรัสเซียกันบ้างหรือยังเอ่ย ?



Black Lightning ( เหาะทะลุฟ้า ซิ่งมหาประลัย ) ... 3 ดาว ...

.......................วงการหนังรัสเซียถือว่าเป็นอีกตลาดที่เริ่มจะกลับมาบูมอีกครั้ง และตลาดคนดูหนังรัสเซียก็ถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่มาก เพราะจำนวนประชากรที่ใช้ภาษารัสเซีย นับๆแล้วเผลอๆจะหลายร้อยล้านอยู่เหมือนกัน ถ้าทำหนังที่โดนใจตลาดได้ล่ะก็ รวยไม่รู้เรื่องเหมือนกันนะครับ ช่วงที่ผ่านมา โซเวียตปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ แทบจะไม่มีการสร้างหนังกันเท่าไหร่ หรือถ้าสร้างก็ต้องออกแนว โปรปากันด้า โปรโมทระบอบของเค้ากันไป พอได้เปลี่ยนมาเป็นระบอบทุนนิยมประชาธิปไตย การสร้างหนังในแบบเชิงพาณิชย์ถึงได้เริ่มถือกำเนิดขึ้นอย่างเต็มตัว ? ในช่วงตั้งไข่แบบนี้ ก็ไม่แปลกที่อิทธิพลของหนังตลาดในแบบฮอลลีวู๊ด จะเข้ามาครอบงำ คนทำหนังรัสเซีย เชื่อว่าหนังหลายๆเรื่องที่ออกสู่ตลาด ก็ต้องรับสไตล์แบบฝรั่งฝั่งตะวันตกเข้ามามากพอสมควรเลย กระนั้นวงการหนังอาร์ตของรัสเซียก็ยังเติบโตอยู่ และมีหนังดีๆออกมาสู่วงการหนังโลกอยู่เรื่อยๆ

.......................แน่นอนว่า ประเทศรัสเซียก็เป็นอีกประเทศที่ผลิตศิลปินออกมาเป็นจำนวนมาก และหนึ่งในน้อยคนนั้น ก็ได้ก้าวไปทำหนังฮอลลีวู๊ดเช่นกัน และประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยผลงานเปิดตัวอย่าง Wanted ที่ แองจี้ นำแสดงนั่นเอง !! และพอตัวเองดังแล้วก็เลย อาสามารับบทป๋าดัน ให้กับหนังสัญชาติรัสเซียเรื่องนี้ ซึ่งก็ถือว่าไม่เอาชื่อตัวเองมาเสียแต่อย่างใด เพราะแม้จะรับแรงบันดาลใจมาจากหนังแอคชั่นอเมริกันหลายเรื่องมายำรวมกัน แต่ก็ดัดแปลงและเล่าเรื่องออกมาได้มันส์ พอตัวเลยครับ !! ถึงอาจจะยังได้ไปลงโรงฉายไม่มากประเทศนัก แต่ก็เชื่อได้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นหนังที่เปิดตลาดหนังรัสเซียสู่ตลาดโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ !! ก่อนหน้านี้แม้จะมีหนังรัสเซียที่ทำเงินถล่มทลายในบ้านมาลงตลาดหนังแผ่นบ้านเราแบบเงียบๆ อย่างพวก Night Watch - Day watch หนังเหล่านั้นก็ยังไม่ค่อยถูกใจตลาดเท่าไหร่ ??

.......................Black Lightning เป็นหนังเกี่ยวกับวัยรุ่นที่ได้รับรถเป็นของขวัญจากพ่อ แต่รถนั้นขับไปขับมา ปรากฏว่ามันเหาะได้ ตอนหลังพระเอกก็เลยเอารถนี้ไปช่วยเหลือสังคม หลังจากที่ตัวเองเกิดปมความรู้สึกผิดในใจจากที่เคยทำพลาดใหญ่หลวงในชีวิตเข้าไว้หนนึง พูดก็พูดเหอะ นี่คือส่วนผสมของหนังอย่าง Spider man และ Tranformers ที่ทำได้อย่างลงตัวมาก แม้ว่าจะมีข้อบกพร่องมากมายในแง่ความสมเหตุสมผล ความน่าเชื่อถือหลายอย่าง รวมถึงซีจี เทคนิคพิเศษที่ยังไม่เนียนนัก คงเพราะได้งบมาไม่มากเท่าหนังอเมริกัน แต่เนื้อหาโดยรวมก็ถือว่าแข็งแรง และได้การกำกับที่เร้าใจมาช่วยไว้ได้ ถึงหนังจะเป็นสูตรสำเร็จเต็มตัว แล้วก็เห็นได้ชัดว่ารับอิทธิพลมามากไปนิด แต่ก็ถือเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เพราะหนังตลาดแอคชั่นจ๋าแบบนี้ หาความแปลกใหม่ และความคิดเฉพาะตัวได้ยากเต็มทีแล้วครับ !! แค่ขอให้เรื่องราวออกมาเข้าท่า ก็น่าจะโอแล้ว

.......................หนังตั้งคำถามและเสียดเย้ยสังคมปัจจุบันเรื่องการแล้งน้ำใจของผู้คนได้อย่างน่าสนใจ กระนั้นหนังก็ไม่พยายามก้าวล้ำไปกว่า เรื่องของธรรมะ ชนะ อธรรม และความรับผิดชอบของปัจเจกบุคคล ในฐานะมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง !! ถ้าต้องเลือกระหว่าง เงินก้อนโต กับ ความเห็นแก่ตัว เชื่อว่ามนุษย์ส่วนใหญ่คงไม่ลังเลเท่าไหร่ แต่อย่างที่เห็น เงินก้อนโตก็ไม่ได้นำพามาซึ่งความสุขเสมอไป เพราะความรวยย่อมตามมาด้วยทุกขลาภบางอย่าง เพราะไม่มีอะไรที่ได้มา โดยคุณไม่ต้องเสียบางอย่างไป ในการได้มาซึ่งความร่ำรวย คนๆนั้นก็มักจะมีมูลค่าบางอย่างที่ต้องจ่ายไปเช่นกัน !! หนังสะท้อนภาพความเป็นอยู่และสังคมวัยรุ่นปัจจุบันของรัสเซียให้เราเห็นภาพได้ชัดเจนดีครับ นอกจากตอกย้ำว่า รัสเซียปัจจุบันนี้เข้มแข็งและเริ่มเข้าสู่ความร่ำรวยแล้ว วิธีคิดแบบตะวันตกกำลังเริ่มครอบงำความคิดคนรุ่นใหม่ของประเทศอย่างเต็มที่ !! ไม่ต่างจากบ้านเราเลย

ป.ล. รู้จักผู้เขียนเพิ่มเติม เชิญที่เวปแพนด้ากรุ๊ปจ๊ะ
www.pandagroup.pantown.com

วันพฤหัสบดีที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553

~ เมื่อ joblovenuk แอบนินทา เจ้าป้า dfh ~

.......................ฮั่นแน่ แฟนๆเจ้าป้า แฟนๆกระผม เข้ามาอ่านกันอุ่นหนาฝาคั่งเชียวนะครับ ยินดีต้อนรับครับทุกๆคน มา เร่เข้ามา เด๋วผมจะนินทาเจ้าป้า dfh ให้ฟัง แล้วส่วนของน้องตัวประกอบ ปิงปิง เอาไว้โอกาสหน้านะ ขอเรียกเรตติ้งไปทีละชุดๆแล้วกัน เด๋วเข้ามากันเยอะจนบล็อคพังแล้วมันจะยุ่งน่ะครับ ขี้เกียจซ่อมบล็อค คริคริ ~ อย่าหาว่าเกาะหรือโหนกระแสเลยนะ ของแบบนี้มันต้องฉวยโอกาสกันสักนิดนึง เจ้าป้า dfh เค้าก็คงไม่ว่าอะไรหรอก รายนั้นเค้าอยากดังอยู่แล้ว ( อุ๊บส์ - คุณพี่ล้อเล่นจ๊ะ ) ได้ข่าวว่าช่วงนี้เจ้าป้าเค้าเก็บเนื้อเก็บตัว เตรียมจะล้างภาพพจน์ใหม่ เป็นนางเอกแสนดี ปล่อยให้พี่ติ๊ก เจษ แห่งปาฏิหาริย์รักต่างพันธ์ รับบทศูนย์หน้าดาวซัลโวไปแทน

.......................แต่แฟนๆเจ้าป้าไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ เจ้าป้าแกไม่เก็บเนื้อเก็บตัวนานหรอก เด๋วก็อดใจไม่ไหว ออกมาดาทัพหน้าซัดกับชาวบ้านให้ทุกๆท่านได้ชมกันเหมือนเดิมแหละ เป็นสไตล์ของน้องเค้า น้องเค้าไม่ชอบอยู่นิ่งๆ ถ้าให้นอนแผ่หราเป็นฝ่ายตั้งรับ ก็คงไม่ใช่เจ้าป้าแล้วล่ะ เจ้าป้าแกสไตล์บู๊ ปน บุ๋น คือถ้าเป็นการร่วมรัก เจ้าป้าแกก็คงต้อง woman on top สถานเดียว แต่ระหว่าง on top อยู่นั้นน่ะ ก็คิดถึงท่าอื่นล่วงหน้าไปหลายท่าแล้ว เช่นท่าพระจันทร์ ท่าพระอาทิตย์ ก็ว่ากันไป เพราะเจ้าป้าแกจบจากแถวท่าพระจันทร์มา เอ๊ย รังสิตต่างหากเล่า สมัยนี้เค้ามีเรียนกันแถวท่าพระจันทร์ที่ใหนกัน มีแต่นักศึกษาป.โท เท่านั้นแหละที่ได้เรียนแถวนั้น ?

.......................ถึงใหนแล้ว ยังไม่ได้นินทาเจ้าป้าเท่าไหร่เลย นึกก่อนจะเม๊าท์ไรดี เจ้าป้าเป็นสาวหมวย บ้านเกิดอยู่แถวๆอีสานตอนบน จ.อุดร ขอนแก่น ถิ่นเสื้อแดงนั่นเอง เพราะงั้นเจ้าป้าก็เลยนิยมชมชอบสีแดง เปล่าเป็นเพราะอิทธิพลทางบ้านหรอกครับ แต่จริงๆเป็นเพราะเจ้าป้าแกใฝ่หาประชาธิปไตย และนิยมความเป็นเสรีชน ไม่ยึดติดกับความเชื่อโง่ๆงมงายแบบคนสมัยเก่า เจ้าป้าเป็นคนฉลาด และรักสันโดษ ทำอะไรคนเดียวได้ ไม่แคร์ถ้าไม่มีผัว ถ้าจะต้องมีผัวเลวๆแบบไอ้ปลาวาฬ เอ๊ะ หรือจริงๆเจ้าป้าแกจะแอบชอบอยู่ก็ไม่รู้ เห็นพูดถึงอยู่บ่อยๆ แต่คิดว่าเจ้าป้าแกคงไม่มีรสนิยมสมสู่กับ " สัตว์เดรัจฉาน " หรอกมั๊งครับ ยิ่งได้ข่าวว่ารายนั้นเพิ่งทำสาวท้องไปหมาดๆด้วย

.......................เจ้าป้า dfh เหมือนสาวมั่นในบางที แต่ในบางครั้งก็เหมือนเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ ผิดกับผมหรือว่าปิงปิงที่ไม่ค่อยจะคิดเล็กคิดน้อย อาจจะเป็นเพราะนิสัยแบบผู้หญิงกระมังที่ติดห่วงโน่นห่วงนี้ แต่สิ่งที่เจ้าป้ากับปิงปิงเหมือนกัน แต่ต่างจากผมก็คือ เจ้าป้าชอบมีเรื่อง แต่ผมไม่ได้ชอบหาเรื่องกับใคร แต่สิ่งที่พวกเรามีเหมือนกันแน่ๆก็คือ มีพวกสัตว์ตัวอื่นมันชอบมาหาเรื่องพวกเราก่อนซะเอง แน่นอนว่าเทพๆอย่างพวกเราคงไม่ยอมให้สัตว์มันมาจวกข้างเดียวอยู่แล้ว มีปากคมกริบอย่างเราๆ ไม่กรีดมันกลับก็ใช่ที่ล่ะครับ ถ้าสัตว์มันยื่นคอมา แล้วเราถือดาบอยู่ก็ต้องสนองสักหน่อยล่ะครับ ~ แต่จริงๆก็คือถึงจะชอบฟัน ( อิอิ ) แต่พวกเราก็ให้ทิปนะ 55

.......................ความลับของเจ้าป้า น่ะเหรอ รู้แล้วเหยียบไว้นะครับ เจ้าป้ากลัว ศอฉ. ก๊าก สงสัยเจ้าป้ากลัวโดนอมฉิ่งฉับ ( คิกคิก ) เนี่ยเห็นๆโพสท์แบบนี้ เจ้าป้าไม่เคยพาดพิงการเมืองเลยนะ หรือถ้าจะพิง ก็ พิง ลำพระเพลิง เท่านั้นแหละครับ เดาว่าสงสัยเจ้าป้าจะชอบหนุ่มหน้าเถื่อนๆ มีซิกแพคล่ำๆ ออกมั่นใจในตัวเองหน่อยๆ รักเดียวใจเดียว แถมยังชอบหมกมุ่นกับอะไรบางอย่าง แต่ตอนนี้ได้ข่าวว่า พี่พิงแกมีสาวๆเยอะแล้ว เจ้าป้าก็เลยไม่กล้าเสนอตัวเป็น candidate ด้วย ฮ่า ~ เจ้าป้ามีเซฟเฮ๊าส์อยู่หลายหลัง ที่เห็นอยู่ประจำก็แถวๆปิ่นเกล้า ใครอยากเจอก็ไปดักรอได้นะ แต่ถ้าดักฉุดก็ต้องถามน้อง ปิงปิงเขาก่อนว่าจะยอมหรือเปล่า ( อิอิ ) อีกหลังอยู่แถวๆรังสิต ไม่รู้ตรงใหน ?

( มีต่อนะ เอาไว้แค่นี้ก่อนละกัน )

www.pandagroup.pantown.com

วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553

รูปที่ joblovenuk + dfh + ตัวประกอบ ปิงปิง อยากให้หลายๆท่านมีประดับบ้าน +


ได้ภาพสวยๆพร้อมลายเซ็นและคำอวยพรจากท่านนายก ทักษิณ ชินวัตร ต้องขอบคุณท่านที่ให้มาจริงๆ ยังมีเหลืออีกหลายใบนะครับ ท่านใหนอยากได้ แวะมารับที่บ้านผมได้นะครับ

www.pandagroup.pantown.com

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

~ It's Complicated - โอ้วว แม่จ้าวววว เจ้าป้า เมอริล สตรีพ เล่นชู้ .... อีกแล้ว !! ~


It's Complicated ( รักวุ่นวาย หัวใจสับราง ) .... 3 ดาวครึ่ง ....

ให้ตายเหอะ โนแลน ... ปีนี้ผมพลาดหนังดีๆไปเยอะมั่กม่ากกกก !!
ใครจะคิดล่ะครับว่า หนังที่นักแสดงนำอายุรวมกันเกิน 100 จะเล่าออกมาได้สนุกขนาดนี้ ?
ใครจะคิดบ้างล่ะครับว่า หนังโรแมนติก คอมเมดี้ กุ๊กกิ๊กเนี่ย จะใช้ดารานำอายุ 50 กว่าเล่นได้ ?
ที่สำคัญ ต่อให้ได้ดาราระดับขั้นเทพตัวแม่มารับบทนำก็เหอะ มีสักกี่คนที่คิดว่าหนังแบบนี้ขายได้ ?

...................หนังแบบนี้เป็นหนังที่ผมเชื่อว่าไม่มีวันที่จะทำออกมาเป็นหนังไทยได้ ไม่ใช่ว่าดาราไทยไม่มีศักยภาพ หรือว่าไม่มีคนทำหนังรักเก่งๆนะครับ แต่มันยากที่จะทำให้นายทุนเชื่อว่า นี่คือหนังที่คนไทยจะตีตั๋วเข้าไปดูกันครับ ? เพราะถ้าลองคุณป้าคุณลุง แก่ๆขนาด 50 - 60 แล้วเนี่ย คงไม่มีลูกหลานที่ใหนอยากตีตั๋วเข้าไปดูคุณลุงคุณป้าจิจ๊ะจู๋จี๋ กุ๊กกิ๊กกันในโรงแน่ๆ ผิดกับที่เมืองนอกที่ กลุ่มคนดูหนังเนี่ย ไม่ได้มีอยู่แค่กลุ่มเด็ก กลุ่มวัยรุ่น แต่กลุ่มคนทำงาน และกลุ่มคนดูรุ่นผู้ใหญ่ เค้าก็มีศักยภาพพอที่จะเป็นอีกกลุ่มใหญ่ๆที่มีอิทธิพลต่อตลาดหนังทีเดียว !! เพราะงั้นหนังแบบเรื่องนี้ก็ยังมีกลุ่มคนดูที่พร้อมจะตีตั๋วเข้าไปดูเป็นกลุ่มหลัก พร้อมยังมีกลุ่มเสริมที่เป็นฐานแฟนดาราของหนังเหล่านี้ก็อาจจะยอมเสียเงินถ้าหากว่าหนังมันออกมาน่าสนใจ เสียดายที่หน้าหนังออกมาไม่ดึงดูดเท่าไหร่ ทำให้ตอนหนังมาฉายบ้านเราแบบจำกัดโรง ผมเลยมองผ่านไป

...................It's Complicate เป็นหนังที่ตั้งชื่อได้ตรงกับหนังมากๆๆเลย ผมหมายถึงชื่อฝรั่งนะครับ เพราะความรักที่เราเห็นแบบในหนังเป็นอะไรที่ซับซ้อนชวนสับสนได้สมชื่อจริงๆ นางเอกเมอริล สตรีพ เป็นแม่ม่ายวัย 50 กว่าๆ ซึ่งลูกโตกันหมดแล้ว บ้างก็ย้ายออกไปทำงาน บ้างก็กำลังจะไปเรียนต่อต่างเมือง คุณป้าเธอเป็นเจ้าของอาหาร ก็ระดับความเป็นอยู่เข้าขั้นคนมีอันจะกิน บ้านใหญ่โตมโหฬาร แต่พอลูกออกไปกันหมด เธอก็เคว้งสิครับ เหงาดิ่ แล้วทีนี้ฉ้านจะอยู่กับใครล่ะ ? มีทุกอย่างแล้ว เหลือแต่คนข้างกาย เหลือแต่ใครสักคนจะมาเติมไออุ่นในวันที่เหงาๆ ว่าแล้วเธอก็ได้ไปเจอกับสามีเก่าในงานเลี้ยง จากนั้นก็ไปเจอกันทีในงานเลี้ยงฉลองลูกเรียนจบ ก็เกิดมีปิ๊งๆปั๊งๆกันขึ้นประสาถ่านไฟเก่า วัวเคยขาม้าเคยขี่ ? สุดท้ายไปลงเอยจบกันที่บนเตียง เอาล่ะสิคราวนี้ เพราะว่าสามีเก่าเธอก็มีเมียใหม่แล้ว และเมียเด็กคนนี้ก็เป็นคนแย่งสามีเก่าไปจากอ้อมอกเธอนั่นเอง

...................ไม่แค่นั้น เจ้าป้าเมอริล ก็ยังมีสถาปนิกพ่อม่ายแสนดี เข้ามาพัวพันให้หัวใจว้าวุ่นอีกราย คราวนี้เจ้าป้าเธอจะเลือกใครกันล่ะ ระหว่างผัวเก่าสุดเร้าใจ กับ ผัวใหม่ที่แสนน่ารัก ? โอ้โฮ เจ้าป้า ถึงจะ 50 แต่ก็ยังเลือกได้อยู่นะเคาะ ไม่ใช่เล่นๆเลยเค่าะ !! หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน อย่างผัวเก่านางเอกที่ไปมีครอบครัวใหม่ แฟนผัวเก่าเธอก็แร่ดมาก เคยทิ้งผัวเก่าเธอไปมีกิ๊ก จนมีลูกติดแล้วก็กลับมาหาผัวเก่าเธอ ซึ่งผัวเก่าเธอก็ใจดีรับเลี้ยงลูกนอกไส้ด้วย ? แต่อย่างว่าแหละครับ ผู้ชายอ่ะชอบอยู่แล้ว ผู้หญิงแร่ - ๆ ตอแหร๋ๆ ขอให้ xxx มันส์ จริงใหมล่ะ ? พอนางเอกกลับมามีอะไรกับผัวเก่า คือถึงแม้จะเคยเป็นผัวเมียกันก็จริงอยู่ แต่เมื่อหย่าไปแล้ว แอบไปนอนด้วยตอนเค้ามีคู่แต่งงงานแล้วก็ถือว่าเป็นชู้กันจริงใหมล่ะครับ ต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าผิด แต่เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวก็ไม่รู้หรอกเนาะ ทีนี้นางเอกก็เริ่มมาทบทวนดูว่าจริงๆแล้วตัวเองต้องการอะไร

...................เมอริล สตรีพ เคยเล่นหนังรักเล่นชู้ดราม่า อย่าง Bridge of madison County ได้กินใจหลายคนมาแล้ว คราวนี้ก็มาเล่นชู้แบบขำๆ ตามสไตล์หนังรอมคอม ต้องบอกว่าเจ้าป้าทำได้ดีโคตรๆๆๆๆ ตั้งแต่เคยดูหนังเจ้าป้าเล่นหนังคอมเมดี้มาก็หลายเรื่อง แต่ยังไม่เคยเห็นว่าเจ้าป้าเล่นหนังตลกได้ดี จนมาถึงเรื่องนี้แหละครับที่ทำให้ผมยอมรับว่า เจ้าป้านี่สุดยอดตัวแม่จริงๆ เล่นหนังดราม่าก็เฉียบ เล่นหนังโรแมนติก คอมเมดี้ก็ยังได้ ทำได้ไงอ่ะ ? ส่วน อเล็ก บอลด์วินนี่ โอ้โฮ ต้องบอกว่าเป็นบทบาทที่ดีที่สุดในชีวิตของเขาเลย เคยดูหนังตั้งแต่ยังหล่อเนี๊ยบ เด๋วนี้ฉุซะ แต่ก็ยังเป็นหนุ่มที่ดูดีอยู่ดีแหละ แถมเล่นฉากตลกได้ขำสุดๆๆ ส่วนดาราสมทบต้องบอกเลยว่า มีขโมยซีนกันหลายคนมากๆ โดยเฉพาะตัวลูกเขยนางเอก ~ แนนซี่ ไมเยอร์ ผกก.เก่งมากๆๆในการกำกับหนังตลก และเขียนบทได้อย่างมีอารมณ์ขันมากๆๆ ชอบหนังเรื่องนี้มากๆๆ

ป.ล. รู้จักผู้เขียนเพิ่มเติม เชิญที่เวปนะครับ
www.pandagroup.pantown.com

วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

+ joblovenuk โคตรเศร้า พลาดชมหนังท่าน ตัวประกอบ ปิงปิง แสดงคู่เจ้าป้า dfh +

........................ชีวิตมันก็แบบนี้แหละครับ บางทีเราวางแผนไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว แต่บ่อยครั้งที่มันก็ไม่ได้ออกมาตามที่เราวางแผนไว้ ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไปตามลิขิตชะตาฟ้า หรือใครจะเรียกว่า เป็นเพราะเราลิขิตเองก็ว่ากันไปนะครับ ~ แต่จนแล้วจนรอด ก็คือ เมื่อวานนี้จากที่ลางานเอาไว้ ตั้งใจจะไปดูหนังสั้นของ น้องตัวประกอบ ปิงปิง ที่หอศิลป์กรุงเทพ เรื่อง The story about you and me หรือไงเนี่ย ? ที่น้องปิงปิง เธออุตส่าห์กำกับเอง แสดงเองร่วมกับเจ้าป้า dfh คนดังแห่งเวปเดรัจฉาน ( ขอไม่พูดถึงชื่อเวปให้เป็นเสนียดปาก ) ซึ่งจะฉายตอนห้าโมง ก็คำนวณดูแล้วว่าเวลามีเหลือเยอะ แม่ลูกเค้าอยากไปเที่ยวสวนสยามกัน ก็เลยรับปากว่าจะพาไป คิดว่าไปแค่ช่วงเช้าถึงบ่ายๆก็น่าจะเหลือเฟือ แต่ปรากฏว่าคาดการณ์ผิดไปถนัด ~

........................สวนสยามเปิด 10 โมงถึง 18.00 น.ในช่วงนี้ เราออกจากบ้านกันประมาณสิบโมงเศษๆ ไปถึง 11 โมงเศษๆ ก็เดินไปซื้อบัตรชุด เค้าขายกันในราคา 300 บาท รวมสวนน้ำกับเครื่องเล่น 14 อย่าง ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากนะครับ เหมือนจะแพง แต่ไม่แพงเลย แล้วก็มีอะไรให้ดูให้เล่นเยอะ แค่เครื่องเล่นก็กินเวลาปาเข้าไปถึงบ่ายสองแล้ว พี่แจ็คกับน้องเจฟฟรี่ตามมาสมทบด้วยอีกคู่ กว่าจะไปเล่นสวนน้ำก็บ่ายสองกว่าแล้ว ใหนจะเล่นสไลเดอร์ ทานอะไรต่อมิอะไร แล้วก็เดินไปถึงทะเลกรุงเทพก็ตอนสี่โมงแล้ว เล่นน้ำกันเพลิดเพลิน ดูเวลาแล้วยังไงก็ไม่ทัน เลยได้แต่โทรไปขอโทษน้องปิงปิงที่งานนี้อดไปดูหนังซะแล้ว รู้สึกละอายและเสียดายพอสมควรเลย เพราะรับปากไว้ตั้งแต่เดือนก่อนโน้น ไม่คิดว่าจะอดไปดู สรุปว่าเมื่อวานก็เล่นกันจนสวนสยามปิดครับ แถมตอนเค้าปิดแล้วยังจะกลับไปเล่นเครื่องเล่นต่ออีก ทันเล่นแค่อย่างเดียว จะขอล่องแก่งอีกรอบเค้าไม่ยอม จริงๆผมว่าน่าจะเลื่อนเวลาปิดไปเป็นสักสองทุ่มนะครับ เล่นกันไม่ทันหรอก เวลาน้อยไป

www.pandagroup.pantown.com