วันพฤหัสบดีที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2553

joblovenuk ขอร้องพี่ๆสื่อนะครับ อย่าเผยแพร่เรื่องพี่โชนตัวจริงของน้องใบเฟิร์น อิอิ ~

........ กลัวๆพี่ๆสื่อมวลชน จะเจอภาพเก่าๆของผมจังเลยครับ สมัยกระโน้นนน ผมก็เคยมีชื่อว่า พี่โชน อ่ะครับ อิอิ ก็สนิทสนมกับน้องน้ำเค้าอ่ะครับ ก็ไม่ใช่แฟนอ่ะครับ สนิทสนม แบบว่า มีความสัมพันธ์ ( เอิ๊กกก ) ล้อเล่นน่ะครับ ดูความสนิทสนมจากในภาพก็แล้วกันนะครับ ภาพชุดนี้ก็เก่าเก็บพอสมควรแล้วอ่ะครับ เสียดายถ้ารู้ว่าน้องน้ำเค้าจะดังขนาดนี้ ก็จะขอถ่ายภาพแบบแนบชิดไว้หลายๆภาพอยู่ ตอนโน้นนนน แทบจะไม่มีนักข่าวหรือสื่อ ขอน้องเขาถ่ายภาพเลยครับ คงเพราะเป็นเด็กใหม่ เพิ่งแสดงหนังเรื่องแรกด้วยกระมังครับ ผมเห็นว่าน่ารักดี ก็เลยขอถ่ายภาพคู่ไว้ ช่างเป็นโชคดีจริงๆ ปีกว่าๆถัดมา น้องเค้าก็กลายเป็นดาราดังน่าจับตาไปซะเล้ว

www.pandagroup.pantown.com







วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

Our Family Wedding ... ถ้าคนเรารักกัน งานแต่งงานจะมีความหมายอะไร ?

Our Family Wedding ( วิวาห์วุ่น คุณพ่อขวางลำ ) .... 2 ดาวครึ่ง ....

..........................ดูหนังเรื่องนี้แบบไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่ เพราะดูแผ่นแรกหลายวันก่อน ก่อนจะมาดูแผ่นสองต่ออีกเมื่อคืนนี้ ยอมรับว่าอารมณ์สะดุดไปเหมือนกัน เหมือนหนังคนละเรื่องเลยครับ จริงๆผมว่ามันเป็นเพราะตัวหนังด้วย ผมชอบครึ่งแรก หมายถึงแผ่นแรกมากๆ เพราะมันทั้งตลก น่ารัก สนุก และโรแมนติก หยิบเรื่องพ่อผัว พ่อตาแม่ยาย ไม่กินเส้นกันมาเล่นได้อย่างสนุกและขบขัน ที่สำคัญหนังเรื่องนี้เป็นหนังคนดำ ผู้มีอันจะกินนะครับ ครอบครัวฝ่ายชายเป็นคนดำ ส่วนฝ่ายหญิงเป็นละติน อเมริกัน ซึ่งถือเป็นคนกลุ่มน้อยของอเมริกาทั้งคู่ แต่สังเกตุว่าทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงก็เป็นคนมีตังนะครับ ไม่ใช่กะโหลกกะลา หรือพวกเพิ่งอพยพเข้าไปอยู่ คือปักหลักปักฐานกันจนล่ำซำแล้ว การที่ลูกสาวหรือลูกชายจะออกเหย้าออกเรือน ก็ต้องทำให้มีหน้ามีตากันหน่อย

..........................คู่ผัวตัวเมีย ตัวลูกชายลูกสาวที่เค้าจะแต่งงานกัน เค้าไม่ต้องการให้อะไรมันยุ่งยากหรอก แต่พ่อผัวก็เรื่องมาก พ่อตาแม่ยายก็มากเรื่อง ต้องทำพิธีรีตองมากมาย มีขนบธรรมเนียมประเพณี ทั้งฝ่ายผิวดำ และฝ่ายเม๊กซิกัน เยอะมาก ทำให้ลูกๆ ที่จะเข้าพิธีเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวปวดหัวไปตามๆกัน จนงานแต่งเกือบจะล้มเลิกเพราะรับกับความกดดันไม่ไหว แล้วก็มีทะเลาะกันบ้าง ก่อนที่ทุกอย่างจะคลี่คลายกันได้ด้วยดี ตามสูตร หนังมีรายละเอียดเบ็ดเตล็ดเบี้ยบ้ายรายทางเยอะมากครับ ดาราที่มาเล่นหลายๆคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ฟอร์เรสท์ วิทเทเกอร์ ดาราออสการ์ ก็มารับบทเป็นพ่อผัวด้วย คุ้นๆยังกะเห็น เอดดี้ เมอร์ฟี่ กับดาราที่เคยเล่นหนังบ่อยๆอีกคน แต่จำชื่อไม่ได้ ด้วยความที่หนังเรื่องนี้เป็นรอมคอม ก็เลยได้เห็นดาราผิวสีที่เคยเล่นบทหนักๆมาผ่อนคลายกับบทบาทเบาๆกันดูบ้างในหนังเรื่องนี้

..........................เชื่อว่าคนดูหนังบ้านเราไม่ค่อยได้ดูหนังคนดำกันเท่าไหร่หรอก เจอวัฒนธรรมของฝรั่งผิวขาวครอบงำจนคิดว่า เมืองนอกมีแต่คนขาวเท่านั้นที่ฉลาดและรวย ทั้งๆที่จริงๆอเมริกาเป็นประเทศที่วัฒนธรรมหลากหลาย คนหน้าตาเอเซียอย่างเราๆหรือ หน้าตาละติน หรือแม้แต่พวกผิวสี ก็มีคนที่ฉลาดๆ และมีอาชีพที่ได้รับหน้าถือตามากมาย พวกผิวดำไม่ได้มีแต่พวกค้ายา หรือยากจน เหมือนในหนังฮอลลีวู๊ดส่วนใหญ่ ก็เหมือนกับคนในประเทศอื่นๆน่ะแหละครับที่มีทั้งคนรวยคนจน คนฉลาดคนโง่ ซึ่งจะแยกแยะจากหน้าตาหรือบุคลิกลักษณะภายนอกได้ค่อนข้างยาก ในประเทศที่มีการแบ่งแยกชนชั้นมากๆอย่างประเทศไทยหรืออินเดีย ก็เลยทำให้หนังบางประเภทได้เข้ามาฉายกันเยอะจนเอียน ขณะที่หนังบางประเภท ถูกจำกัดกีดกันจนแทบไม่มีโอกาสลืมตาอ้าปากในบ้านเรา มันอาจจะเป็นเพราะคนดูหนังบ้านเรามันรสนิยมต่ำก็เป็นได้ ?

www.pandagroup.pantown.com


วันพฤหัสบดีที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553

Silent Venom ....หนังเกรดบีที่เล่นเอา joblovenuk สะดุ้งเสียวสยอง ร้องกรี๊ดเป็นระยะ ~

Silent Venom ( อสรพิษเลื้อยดิ่งทะเลลึก ) .... สามดาว .....

..........................คนทำหนังที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไร และก็ตั้งใจทำมันอย่างไม่เสแสร้ง มักจะทำมันออกมาได้เป็นอย่างดีนะครับ โดยเฉพาะหนังที่หน้าตาสไตล์คล้ายหนังเกรดบี ถ้าพยายามทำตัวหัวสูง ยกระดับตัวเองมักจะไปไม่ค่อยรอดทั้งนั้น อย่างหนังเรื่องนี้ คนทำเค้าก็รู้ว่าตัวเองทำหนังเกรดบีอยู่ เค้าก็เล่นกันแบบซื่อๆ งบน้อยก็ไม่ต้องไปทำอะไรหรูหรา คนดูไม่ได้ต้องการใส่ใจอะไรกับสเปเชียลเอฟเฟคซ์อะไรมากมายอยู่แล้ว ขอให้เล่าเรื่องฉลาดๆ เล่นกันอยู่ในพื้นที่แคบๆ ก็ทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นเสียวสยองได้ตามที่ผู้กำกับบัญชาอยู่แล้ว !! แถมหนังเรื่องนี้ได้ดารา ที่มีชื่อเสียงพอควรอย่าง ลุค เพอร์รี่ กับ ทอม เบเรนเจอร์ มาร่วมแสดงด้วย ก็ยิ่งทำให้หนังดูดีขึ้นอีก ? ต้องบอกว่าโชคดีมากๆที่คนเขียนบทหนังเรื่องนี้ ทำงานแบบตั้งใจ และเขียนเรื่องราวออกมาได้สนุกสนานเร้าใจเกินคาด เจ๋งกว่าหนังแนวนี้หลายๆเรื่อง เลยช่วยยกระดับหนังเกรดบีเรื่องนี้ได้อีกมากโข

..........................Silent Venom เป็นหนังที่เกี่ยวกับ งูเงี้ยวเขี้ยวขอด ที่เป็น งูพิษร้ายแรง ผ่านการทดลองจากกองทัพลับๆอยู่บนเกาะแห่งนึง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ เผอิญต้องอพยพเป็นการเร่งด่วน เนื่องจากไปทำการวิจัยอยู่แถวๆหมู่เกาะของไต้หวัน ซึ่งกองทัพจีนจะทำการซ้อมรบใกล้ๆกันนั้น ทางอเมริกาก็กลัวว่าทหารจีนอาจจะไปพบการทดลองครั้งนี้ ทำให้ความลับทางการรั่วไหล และเนื่องจากเป็นภารกิจเร่งด่วน จึงต้องให้เรือดำน้ำซึ่งบังเอิญว่าเป็นเรือเก่า ที่กำลังจะส่งมอบไปให้รัฐบาลไต้หวันพอดี ขับไปรับนักวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งขนงูร้ายเหล่านี้ ไปยังจุดหมายปลายทางที่ญี่ปุ่นด้วย โดยที่เหล่าทหารลูกเรือและกัปตันก็ไม่ทราบว่า สินค้าที่นำมาด้วยกับเรือดำน้ำ เป็นงูพิษร้ายแรงจำนวนมากที่พร้อมจะฆ่าทุกคนที่เข้าใกล้ เร็วอย่างที่แทบจะไม่มีใครตั้งตัวได้เลย !! ก่อนหน้านี้เราเคยมีหนังงูบนเครื่องบิน บนรถไฟ ในป่า มาแล้วคราวนี้ เราก็จะได้ดู งูในเรือดำน้ำ ?

..........................หนังได้ ลุค เพอร์รี่ อดีตดาราทีวีชื่อดัง ซึ่งเหมือนเคยเล่นหนังโรงด้วย มาเล่นเป็นพระเอก กัปตันเรือดำน้ำซึ่งใกล้จะปลดเกษียณ และเคยมีปมจากการตัดสินใจทำงานที่ผิดพลาดครั้งหนึ่งในอดีต กับดาราเก่าชื่อดังอีกคน ทอม เบเรนเจอร์ เล่นรับเชิญเป็นนายพลเรือ ?? ส่วนที่เหลือก็เป็นดาราใหม่ และดาราหนังเกรดบี ความมันส์ก็เริ่มต้นขึ้นเมื่อลูกเรือคนนึงดันเกิดไปทะลึ่งเปิดกล่องพัสดุเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในแล้วก็พบเจ้างูจำนวนมาก โดดออกมาฉก แล้วก็เริ่มคลานออกจากกล่องที่คุมขังตัวเองไว้ และเลื้อยออกมายั้วเยี้ยเต็มลำเรือ คอยฉกทหาร และคนบนเรือ ผู้กำกับเล่นเอาล่อเอาเถิด และสร้างความเสียวสยองให้คนดูได้สำเร็จ โดยฉากงูโผล่แต่ละฉากเล่นเอาผมสะดุ้งโหยง และร้องกรี๊ดกร๊าดอยู่หลายที เพราะมันทั้งน่ากลัว น่าเสียวไส้เอามากๆ เพียงแค่ไม่เกิน 2 นาทีที่โดนงูกัด คนก็ลงไปชักดิ้นชักงอกับพิษร้ายแล้ว และแล้วลูกเรือก็เริ่มหายไปทีละคนสองคน

..........................ไม่แค่นั้นบทหนังยังฉลาดเข้าไปอีก ด้วยการที่ให้เรือดำน้ำของพระเอก เข้าไปตกอยู่ภายใต้วงล้อมการซ้อมรบทางทะเลครั้งใหญ่ที่สุดของกองทัพจีน เรียกว่า ด้านนอกก็มีเรือศัตรูที่พร้อมจมเรือตัวเองได้เต็มไปหมด ด้านในเรือก็มีงูจำนวนมากที่พร้อมจะคร่าชีวิตของคนบนเรือ เจอศัตรูทั้งภายนอก ภายใน เข้าไปพร้อมๆกันแบบนี้ แล้วลูกเรือดำน้ำลำนี้จะเอาชีวิตรอดได้สักกี่คน และจะแก้ไขปัญหาทั้งสองด้านกันแบบใหน ต้องไปติดตามชมในหนังเกรดบีเรื่องนี้กันเอง ? อสรพิษเลื้อยดิ่ง เป็นหนังที่เล่นกับธรรมชาติของงูได้อย่างสมจริง ด้วยความที่มีหนังงูใหญ่ งูเล็ก เลยทำให้คนดูได้ตื่นเต้นกันได้สะใจทั้งสองทาง ชอบอะไรเว่อร์ๆก็ได้ดูเว่อร์ๆ ส่วนชอบความสมจริงก็ได้เห็นอย่างที่ต้องการ งูพิษร้ายที่น่ากลัวส่วนใหญ่ของหนังจะเป็นงูตัวเล็กมากกว่า แล้วหนังก็เล่นสนุกกับความเป็นความตายของตัวละครในหนังได้อย่างน่าสะพรึง แม้บางครั้งงูจะแค่เลื้อยผ่าน หรือแค่โผล่แว่บๆ บางทีการเฉียดเข้าใกล้ความเป็นความตายอาจจะเป็นอะไรที่น่ากลัวกว่าความตายก็ได้

www.pandagroup.pantown.com


วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

~ ปาร์ตี้ คาราโอเกะ กับน้องๆในแผนกที่ The immortal boat ~


...................ค่ำวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถูกน้องๆเชิญแกมบังคับให้ไปปาร์ตี้ โอเกะของแผนกกัน ที่ร้านอิมมอร์ทอล พอดีว่าที่ร้านก็มีค่าส่วนกลางของแผนก ที่เป็นเงินเก็บมากพอสมควรอยู่ แล้วก็ไม่เคยได้ไปร่วมฉลองกันเฉพาะแผนกของเราแผนกเดียวมาเป็นเวลานานแล้ว งานนี้ก็เลยอยากแสดงพลังให้แผนกใกล้เคียงรวมถึงใครต่อใคร ได้เห็นความสามัคคี กลมเกลียวของ ชาว ETC บ้าง ก็เลย นะ ไปซะหน่อย งานนี้โนคนนอก ไม่มีคนในครอบครัว แฟน กิ๊ก เพื่อนฝูง หรือแม้แต่หัวหน้างาน คือไปกันแบบคนในสุดๆ แล้วก็ไปครบคนด้วย 8 คน เป็นที่แปลกใจของใครต่อใครถ้วนหน้า

...................ในงานก็ต้องบอกว่าสนุกกันมากๆๆ ที่อิมมอร์ทอลเนี้ย โอเกะเค้าทำดีมากนะครับ หาเพลงก็ง่าย แค่คีย์ชื่อเพลงลงไปในแป้น เพลงก็มาให้ร้องกันแบบมิวสิควีดีโอ คาราโอเกะ สะดวกรวดเร็ว แล้วบรรยากาศก็ดี อาหารก็อร่อย ราคาไม่แพงอย่างที่คิดครับ สรุปวันนั้นจ่ายเงินเพิ่มอีกคนละ 105 บาทเท่านั้นเอง โคตรคุ้ม แถมเราไปกันก่อนตั้งแต่หัวค่ำ กินกันจนตีหนึ่งเลยครับ มีน้องคนนึง ( แป๋ง ) เค้าถ่ายคลิปไว้เกือบตลอดงาน ตอนนั้นผมก็คิดนะ มันเอาอะไรคิดวะ ถ่ายคลิปไปทำไม น่าจะเก็บแต่ภาพนิ่งดีกว่า แต่ปรากฏว่าผมคิดผิด เพราะภาพคลิปที่ออกมา มันสะท้อนและถ่ายทอดให้คนอื่นเห็นว่า ในงานวันนั้นพวกเราสนุกกันขนาดใหน ทั้งร้อง ทั้งเต้น แบบบ้าสุดๆ

ป.ล. เก็บภาพมาให้ชมบางส่วนนะครับ เพราะถ่ายไว้เยอะ ดูต่อได้ในเวป pandagroup

www.pandagroup.pantown.com


















วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553

~ วันหยุดน้อย ภารกิจมีเยอะ จัดสรรเวลาให้พอนี่มันช่างยากเสียจริง ~



.........................ช่วงนี้ต้องทำงานยาวๆๆ แทบจะไม่ค่อยได้หยุดเลย เพราะใช้วันหยุดไปเยอะในช่วงครึ่งปีแรก ต้องบอกว่าเล่นเอาอ่อนเพลียเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าพอสมควรเลยครับ บางทีต้องทำงานอาทิตย์ หรือเกินอาทิตย์ หยุดแค่วันเดียว ปกติผมก็ทำงานเฉลี่ย ห้าวันหยุด 1 วัน แค่นั้น ถ้าทำงานแบบราชการหรือออฟฟิศ ก็คงสบายหน่อย เพราะได้หยุดวันเสาร์ อาทิตย์ แต่ผมทำงานไม่เหมือนชาวบ้าน ก็เลยไม่ได้หยุดตรงกับวันหยุดครอบครัวนักหรอกครับ แต่ก็ต้องทำใจ เพราะช่วงวันหยุดคือวันทำเงินทำทองอยู่แล้ว ขืนไปหยุดบ่อยๆก็กินแกลบพอดี อย่างเดือนนี้ก็เลือกหยุดวันเสาร์ ไปตั้งสองเสาร์ เพราะจะไปเชียร์บอลเชียงรายเตะนอกบ้านน่ะครับ เลยยอมสละวันหยุด

.........................เมื่อวานทีแรกกะว่าจะไปดูหนังสักหน่อย แต่คุณนายอารมณ์ไม่ค่อยดี ก็เลยต้องรีบออกจากบ้านไม่ให้เป็นการเสียเวลา พาตัวเองไปทำพาสปอร์ตเล่มใหม่ ที่กรมการกงศุล แถวๆแจ้งวัฒนะ ซอย 9 ก็ต้องบอกว่าสถานีโอ่โถง และมีบริการที่รวดเร็วฉับไว น่าจะเป็นหน่วยงานราชการหนึ่งในไม่กี่ที่ ที่บูรณาการตัวเองจนถึงขีดสูงสุด มันเป็นอะไรที่หายากมากนะครับ แบบว่าจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้เป็นระบบระเบียบ เดินตรงเข้าไปก็ทำเรื่องราวให้มันเสร็จได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาต่อคิว หรือจัดแจงเอกสารให้มันวุ่นวายเหมือนหน่วยงานราชการที่อื่นๆ อยากให้ที่อื่นๆได้มาดูงานที่นี่จริงๆ ทำอะไรให้มันเรียบง่าย รวดเร็ว สะดวกสบาย เหมือนที่กรมการกงศุลนี้บ้าง

.........................เสียเวลาไม่ถึง 20 นาทีก็จัดการทำพาสปอร์ตเล่มใหม่เสร็จเรียบร้อย อีกสามวันก็มารับได้เลย หรือจะรอรับที่บ้านก็ได้ถ้าขี้เกียจมา เสร็จภารกิจแรก ผมก็ขับรถออกเดินทางต่อ ขึ้นทางด่วนตรงแจ้งวัฒนะ ไปลงยมราช มองเห็นความวุ่นวายตรงด่านจ่ายตังเหมือนกันที่เขาแบ่งแยกช่องไว้ให้กับ Easy Pass ที่กำลังเป็นข่าวนั่นแหละ จริงๆช่องอีซี่ ทำไว้ช่องเดียวก็พอมั้ง ไม่เห็นรถเข้าไปใช้บริการกันเท่าไหร่เลย ขนาดไปตอนช่วงไม่เร่งรีบ ยังต้องรอคิวขนาดนั้น ถ้าเป็นช่วงรถติดไม่อยากจะคิดเลยพับผ่าว่าจะหงุดหงิดได้ขนาดใหน ? เสียเวลาไม่เยอะก็มาโผล่แถวๆราชดำเนิน ข้ามพระรามแปดไปฝั่งปิ่นเกล้า แวะไปยังร้านล้างตู้แอร์รถยนต์ กะจะไปล้างแอร์สักหน่อย ปรากฏว่า ราคามันพุ่งขึ้นไปถึง 1200 ( เมื่อก่อน 400 บาท ) เลยเปลี่ยนใจยังไม่ทำดีกว่า

.........................ขับรถต่อไปโรงพยาบาลยันฮี รถติดพอสมควรเหมือนกัน เพราะมีการก่อสร้างอะไรแถวๆนั้นน่ะแหละ ไปถึงก็เข้าไปเช็คอิน เอ้ย ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ก่อน ปรากฏว่าโดนวัดความดันด้วยผมบอกว่า ผมมาขูดหินปูนนะเฟ้ย จะมาวัดความดันทำบ้าอะไร ( เริ่มสังหรณ์อะไรแปลกๆแล้ว ) ถามเค้าว่าจะได้ขูดกี่โมง นานหรือเปล่า กี่คิว ขณะนั้น 11.30 น. เค้าว่าสามคิว ประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เลยไปทานข้าวที่ฟู๊ดเซนเตอร์ก่อน อาหารก็งั้นๆครับ ฟู๊ดเซนเตอร์ต้องเดินออกไปนอกตัวโรงบาลนะครับ ถ้าไปกินที่ร้านอาหารของโรงพยาบาล บรรยากาศดีมาก แต่ราคาอาหารแพงกว่าฟู๊ดคอร์ทเซนทรัลอีกครับ ขอบอก !! กลับมาถึงโรงบาล ก็รอคิวอีกพักใหญ่ๆ สงสัยคงจะโดนแซงคิวไปแหง๋ๆ โทษฐานไม่นั่งรอคิวอยู่ที่แถวๆเคาเตอร์ พยาบาล ?

.........................เที่ยงเศษๆก็ได้เข้าไปขูดหินปูนกับคุณหมอผู้หญิง โอ้ นึกว่าจะสบายๆ เสียวๆเหมือนที่เห็นในหนังโป๊ เอ๊ย เหมือนครั้งที่ผ่านๆมา จริงๆผมชอบนะขูดหินปูน ปกติที่ติดใจโรงพยาบาลยันฮี เพราะเคยทำแต่ที่นี่แล้วคุณหมอเค้าก็ทำดี แบบว่ามือเบา มาคราวนี้ โอ้โฮ ไม่รู้คุณหมอหงุดหงิดอะไรมาหรือเปล่า หรือว่าหินปูนหมักหมมในปากเยอะไปหน่อยก็ไม่ทราบ เลยโดนซะยังกะคนงานก่อสร้างมาขุดเจาะในปากแน่ะ แถมนานมากกว่าจะได้บ้วนปากสักที เล่นเอาเมื่อยปากไปหมด ระบมกันเลยทีเดียว กลับมาจับไข้ ต้องซัดพาราไปสองเม็ดเลย ? เมื่อคืนเข้านอนไว ยังรู้สึกผวาๆอยู่เลย เหมือนมีใครเอาอะไรมางัดปาก ขูดๆซอกฟัน มันเหมือนภาพติดตาน่ะ ขนาดเค้าเอาผ้าคลุมตาไว้แล้วนะเนี่ย ? เรียกว่าติดอยู่ในประสาทสัมผัสมากกว่ามังครับ

ป.ล. ยาวไปแล้ว ไว้อัพบล็อคใหม่วันหลังละกันนะครับ คุยกันต่อเชิญคลิกมาบ้านผมได้

www.pandagroup.pantown.com