วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

# บางระจัน ๒ ... แผ่นดินของใคร สู้เพื่ออะไร นวัตกรรมทำซ้ำ กับ วาทกรรมลวงโลก !! #


บางระจัน ๒ ( สองดาว )

......................พุทธศักราช ๒๓๑๐ แผ่นดินผืนที่พวกเรากำลังยืนหยัดใช้ชีวิตกันอยู่ทุกวันนี้ ยังมิได้มีความเป็นรัฐชาติแต่อย่างใด ยังคงเป็นสภาพของหัวเมือง แว่นแคว้น และขาดความเป็นปึกแผ่น ใครมีอำนาจก็ยึดครองกันไป เปลี่ยนโอนถ่ายอำนาจกันไปเรื่อยๆ แล้วแต่ความสามารถของผู้นำ ในแว่นแคว้นใหนๆก็ว่ากันไป เท่าที่ผมได้ศึกษามา ผมเชื่อว่า ผู้นำหัวเมืองแต่ละแห่งที่ทำการสู้รบ ขยายแผ่อำนาจออกไป ก็เพื่อความเป็นใหญ่ของตัวเองเท่านั้น มิได้ห่วงหรือมีจุดประสงค์จะเข้าไปครอบครองทุกผืนแผ่นดินในส่วนที่ตัวเองมีอำนาจอยู่แต่อย่างใด เพราะว่าในสมัยนั้น ประชากรแต่ละแห่งก็มีน้อย การเดินทางไปแต่ละแห่งหนก็ทำได้ลำบาก เพราะฉะนั้น ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะควบคุมทุกตารางเมตรให้อยู่ในอาณัติของตัวเองทั้งหมด ดังนั้นจึงมีคำว่า ประเทศราช หรือ ประเทศในอาณานิคมให้ได้ยินกันอยู่เนืองๆ ซึ่งมันก็คือการให้สิทธิในการปกครองตัวเอง โดยให้มีการส่งส่วยหรือเครื่องราชบรรณาการมาเป็นพิธีเท่านั้น ส่วนใครจะสู้รบกัน ก็เพื่อเป็นการโชว์ศักดิ์ศรีแค่นั้น

......................บ่อยครั้งที่พวกเราดูหนังแนวรักชาติ ทำนองเนี้ย เคยสงสัยใหมครับว่า ที่เราเห็นในหนังอยู่เสมอๆเนี่ย มันคือบทสนทนาที่มีโอกาสน่าจะเคยเกิดขึ้นจริงเท่าไหร่กันเชียว ? เพราะทุกอย่างล้วนผ่านการปรุงแต่ง เหมือนตำราเรียนของประเทศเรา ที่ผ่านกระบวนการยัดเยียดมามากมาย เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์บางอย่างของผู้เขียน ? บรรพบุรุษของเรา พยายามถ่ายโอด ลัทธิความเกลียดชังกันเองที่มีอยู่ในสายเลือดเผ่าพันธ์ไทย ด้วยการโยนความเกลียดชังไปให้ประเทศ พม่า เพื่อนบ้านใกล้ชิดของเราแทน !! เชื่อใหมครับ ว่าแม้แต่คนมีการศึกษาจำนวนมาก ถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีความเกลียดชังลึกๆต่อคนชาติพม่า โดยมีความคิดฝังหัวว่า พวกพม่าเข้ามาเผาบ้านเมืองเรา ? ทั้งที่มีข้อมูลทางประวัติศาสตร์บางแหล่งยืนยันได้ว่า จริงๆแล้วซากที่อยุธยา แท้จริงแล้วอาจจะไม่ใช่เกิดจากการเผาเมืองของพม่าด้วยซ้ำไป !! น่าเสียดายที่คนไทยไม่นิยมการเขียน และไม่ค่อยเก็บหลักฐานทางประวัติศาสตร์กันไว้อย่างดีเหมือนต่างชาติ ทำให้ลูกหลานเราต้อง " จิ้น " กันเอง !!

......................ตลกร้ายหรือเปล่า ที่พวกเราชนชั้นกลาง และชนชั้นล่าง ที่สมัยโบราณเค้าเรียกกันว่า " ไพร่ " กลับถูกพวกชนชั้นสูงในอดีตมอมเมาให้ยึดติดกับอะไรบางอย่าง ด้วยการสร้างคำเก๋ๆเช่น " รักชาติ " และรักอะไรต่อมิอะไร ? หวงแหนแผ่นดิน แผ่นดินของใคร ? สู้เพื่อชาติ ประทานโทษครับ ในเมื่อสมัยนั้นยังไม่มีชาติไทย ยังไม่มีแผ่นดินไทย แล้วจะมาอ้างสวยหรูว่าสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดินได้อย่างไร ประชาชนคนรากหญ้าสมัยนั้นล้วนถูกจูงจมูกให้ไปตาย โดยอ้างความเชื่อโบราณ และความไร้การศึกษา การขาดภูมิความรู้โดยแท้ !! ถ้ามีการให้ความรู้ และสอนให้เค้ารู้จักหวงแหนชีวิต หรือแม้แต่หวงแหนครอบครัว พวกเค้าก็คงไม่ต้องไปตาย ตายอย่างไร้ค่า ? น่าตลกที่หลายต่อหลายคนยอมทิ้งบ้าน ทิ้งครอบครัว ตามแห่ไปรบทั้งๆที่รู้ว่าต้องไปตายอย่างไร้จุดหมาย นั่นคือชะตากรรมของมนุษย์ตัวเล็กๆที่ขาดโอกาสใช่ใหม ? เปล่าครับ เค้ามีโอกาส แต่เค้าเลือกที่จะสละมันไป เพียงเพื่อใครก็ไม่รู้ !! ในท้องเรื่อง บางระจัน ๒ เป็นช่วงที่กรุงศรีแตกแล้วนะครับ

......................ชาวบ้านบางระจัน หรือชาวบ้านอื่นไม่เหมือนคนในเมืองนะครับ ในยุคสมัยนั้นเขาก็แค่ดำรงชีวิตของเขาไป ถ้าเมืองใหนเกิดมีการต่อสู้ ก็อาจจะมีการมาเกณฑ์ผู้คนออกไปทำศึก ถ้าไม่อยากก็ต้องหาทางหลบเลี่ยงกันไป การรบชนะหรือแพ้ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับชาวบ้านเลยแท้ๆ คนที่จะมีผลก็คือพวกคนในเมืองเท่านั้น รวมถึงพวกที่มีอำนาจอยู่ !! เพราะงั้นผมถึงมองว่า ชาวบ้านบางระจันอย่างในหนัง เรื่องอะไรจะต้องมายอมเสี่ยง เพื่ออะไรก็ไม่รู้ หลายคนมีภาระหน้าที่ มีคนต้องดูแล มีครอบครัว มีลูกกำลังจะเกิด แล้วจะให้ออกไปตายเนี่ยนะ ? ถามจริง คนที่มีความรู้ มีสมอง ... ถ้าตอนเกิดม๊อบป่วนเมือง ยิงเอ็ม 79 กันตูมตาม คุณจะออกไปเดินเล่นใจกลางเมือง หรือบริเวณที่เค้ามีการยิงแบบใช้กระสุนจริงหรือเปล่าครับ ? ฉันใดก็ฉันนั้น การที่มีตัวละครชาวบ้านแบบที่เห็นในหนัง วิ่งเข้าไปตาย .. ผมมองได้อย่างเดียวว่า ไม่บ้าก็โง่ครับ น่าเสียดายถึงแม้จะเป็นชีวิตของคนตัวเล็กๆ แต่สำหรับผมมันก็มีความหมายไม่แพ้การตายของคนชั้นสูงนะครับ !! ผมคิดว่าชีวิตมนุษย์เท่าเทียมกัน หรือคุณคิดว่าไม่ครับ ตอบผมหน่อย ??

......................ภราดร ศรีชาพันธ์ อดีตนักเทนนิสระดับโลกคนเดียวของไทย กับบทบาทพระเอกหนังครั้งแรกคราวนี้ และอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย ก็ถือว่าทำได้ดีพอประมาณครับ โชว์บู๊และซีนอารมณ์อยู่หลายฉากหลายตอน ขโมยความเด่นไปคนเดียว ส่วนตัวรองอย่าง บ่าววี หรือ ภูริ ก็พอได้บทบาทไปตามสมควร น่าเสียดายก็แต่หนังใช้นักแสดงเก๋าอย่าง ฉัตรชัย ไม่คุ้ม รวมถึง หนุ่มต๊อบ ชัยวัฒน์ ก็มาเล่นสมทบแบบไม่ค่อยมีความสำคัญอะไร !! ตัวละครหญิงในหนังดูเหมือนจะเป็นส่วนเกินมากกว่า หนังมาด้วยสูตรสำเร็จ และขายความรักชาติอุดมคติแบบซ้ำซาก ผิดกาลเทษะ จนไม่แปลกใจที่หนังจะเจ๊งสนิทในการเข้าฉาย ? เสียดายที่หนังน่าจะใช้ความอินเทรนด์เรื่องการแตกแยกของคนในชาติ รวมถึงการสู้รบระหว่างคนเมือง กับ คนบ้าน รวมถึงยกระดับการต่อสู้ให้เป็นเรื่องการแตกต่างทางความคิดของชนชั้น หรือการปะทะกันระหว่างอำมาตย์กับไพร่ บางระจัน ผมว่าหนังจะดูดีขึ้นกว่านี้อีกเป็นกอง เพราะหนังมีแนวโน้มว่าทำได้ด้วย ก่อนจะหาทางลงแบบ เซฟตัวเอง อย่างเดิมๆ พูดก็พูดเหอะ ผมมองไม่ออกเลยว่า ชาวบ้านบางระจัน จะตามคนเมืองไปตายเพื่ออะไร ?

http://www.pandagroup.pantown.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น