The Silent Sea / Netflix / 3ดาว - อปป้ากงยู is อปป้ากงยู ไม่มีอะไรมาก งานตามสูตร เล่าได้ดีตามมาตรฐาน ถ้าวัดแสตนดาร์ดหนังโรง ก็คือกลางๆแต่วัดด้วยเกณฑ์ละครทีวี ถือว่าได้อยู่ ความลับเยอะขนาดนี้รับงานโดยไม่คิดเยอะพอ ต้องเป็นทหารใช่ปะ ? ทำชั่วโดยอ้างว่ารับคำสั่งมาคือทหารใช่มั้ย ? ทำสิ่งเลวร้ายเหมือนไม่ใช่คน โดยมีข้ออ้างสารพัดว่าเพื่อโน้นนี่ คือมึงอย่าอ้างเลย มึงทำชั่ว เพราะมึงเหี้ย มึงอยากสนองตัณหา เพื่ออำนาจบารมีตัวเอง อย่าได้หาเหตุผลข้ออ้างสารพัดมาแก้ตัวเลย !! คำว่ามนุษย์หรือผู้จิตใจสูง บางทีไม่ควรวัดแค่รูปร่างเหมือนคน เพราะเท่าที่เจอมาพวกหน้าตาเหมือนคนแต่มิใช่มนุษย์มันมีเยอะเกินไปแล้ว ?
วันพฤหัสบดีที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2564
วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2563
Classic Again ของที่มันคลาสสิคเมื่อนำมารีไซเคิลมันก็เลยเป็นแบบที่เห็นนี้แหละ
Classic Again ( จดหมาย สายฝน ร่มวิเศษ ) - 2 ดาว -
ความได้ฟัง " หนักใจ " ของป๋าโชติชู พึ่งอุดม หรือน้าป้อม ออโต้บาห์น ในเวอร์ชั่นหนังเรื่องนี้คือ The Best ของหนังทั้งเรื่อง เอาตรงๆถ้าเทียบกับเวอร์ชั่น 30 ปีก่อน อันนั้นก็เพราะแต่แบบแนวอกหักรักคุดแบบวัยรุ่น แต่เวอร์พ.ศ.นี้ น้าป้อมมา Re arrange ใหม่ให้โหยหวนกว่า เป็นความรักที่ตกผลึกแบบคนที่ผ่านโลกมาอย่างโชกโชนแล้ว ซึ่งก็จะมีมุมมองความรักที่ลึกกว่า เมื่อได้ฟังแล้วมันก็เลยรู้สึกร้าวลึก เจ็บลึก อินได้มากกว่าเดิม ถึงใหนละ หนังเหรอ นอกจากนางเอกแล้วหนังก็แทบไม่มีดีอะไรเลย ( ฮา ) ไม่เข้าใจทำไมหนังไทยเวลาไปถ่ายโลสวยๆ ทำไมต้องทำแสงฟุ้งๆ หน้าชัดหลังเบรอ แทนที่จะเก็บรายละเอียดความงามของธรรมชาติรอบตัว ผิดกับหนังเกาหลี ญี่ปุ่นหรือฝรั่งซึ่งมักจะเน้นความงามรอบตัวไปพร้อมๆกับความงามของตัวละครและเรื่องราว จริงๆบทนางเอกสำหรับนางเอกใหม่คนนี้ก็ทำได้ไม่ถึงกับเลวร้าย แต่อย่าเอาไปเทียบกับเยจินเด็ดขาด รายนั้นน้ำตาสั่งได้ ซีนดราม่า ซีนโรแมนติกอะไรเธอได้หมดทุกสิ่งอย่าง ทั้งเล่นเป็นหน้ายุคโบราณ หน้ายุคปัจจุบัน เธอแสดงได้เหมือนเป็นคนละคน ซึ่งอันนี้ ไม่ใช่แค่หานางเอกสวยๆสักคนมาก็ซ้อมๆบทกันไป ฝึกๆกันไป พรสวรรค์และความสามารถมันไม่ได้มาแบบโชคช่วยอ่ะนะ
หนังยกฉากสำคัญมาจากต้นฉบับเกือบหมด แต่กลับไม่ให้อารมณ์ความรู้สึกอย่างของเดิมเลย แปลกมาก หนังดูประดิษฐ์มากจนเฟค แล้วฉากฝนตกในขณะที่ฉากหลังแดดออกสว่างมากๆ จำไม่ได้ว่าต้นฉบับเคยเล่นแบบนี้ด้วยหรือเปล่า เพราะมันดูหลอกเกินไป แล้วจงใจใส่ฉากแบบนี้มาเยอะมาก มีช็อตขำๆอยู่หลายฉาก ฉากพ.ศ.2510 กับสถานีรถไฟ คือเมืองไทยนี่เซ็ทฉาก 50 ปีก่อนกันได้ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ แค่ไปถ่ายสถานีรถไฟต่างจังหวัดก็ได้แล้ว ( ฮา ) ฉากนางเอกไปส่งพระเอกไปรบ พ.ศ.2516 ไทยมีสงครามไปรบกับเพื่อนบ้านประเทศใหนเหรอ เฮ้ย จะเล่นอะไรแบบนี้ กรุณาอิงกับประวัติศาสตร์เหตุการณ์จริงๆบ้าง ไม่ใช่นึกพิเรนจะยัดอะไรก็ยัดมา มันไม่เมคเซ็นส์อ่ะ แล้วไปส่งกันแบบเกาะท้ายรถจีเอ็มซี มันตลกมาก ไม่ซึ้งไม่อินอะไรเลย ซีน พ.ศ.2516 อีกอัน แทนที่จะเล่นเรื่องเหตุการณ์เดือนตุลาคม ก็ไปเล่นอะไรไม่รู้ เฮ้ย เรื่องแค่นี้ยังไม่กล้าแตะเลยเหรอ ป๊อดจัง ยังดีที่หนังได้การตัดต่อที่ถือว่าสมูธพอสมควรมาช่วยเอาไว้ งานดัดแปลงที่หยิบเรื่องราวในจดหมายมาทำเป็นละครเวทีถือว่าฉลาด และเป็นการบิดอันเดียวที่ทำออกมาได้เข้าท่า ค่อนข้างประหลาดใจที่หลายฉากก็ใช้องค์ประกอบทุกอย่างเหมือนต้นฉบับเลยแต่กลับไม่ให้อารมณ์ร่วมอะไรเลย ทำไมมันดูแห้งแล้งปานนั้น นางเอกในซีนอดีตดูดีกว่าซีนปัจจุบัน แต่ไม่ชอบที่ฉากเปิดเรื่อง ดูนางเอกจะเฟลิ๊ท หรือจีบพระเอกแรงไปนิส
ซีนหิ่งห้อยตลกมาก ดีที่ไม่เอามาปิดหนังอีกรอบ จะยิ่งดูตลกไปกันใหญ่ จริงๆแล้วเสน่ห์ของหนังเวอร์ชั่นต้นฉบับ คือคำว่าคลาสสสิคของมัน มาจากการหยิบเอาช็อตคลาสสิกจากหนังเก่าๆหนังรักหนังบ้านๆมายำรวมกัน เรียกว่าเอาความน้ำเน่าออกมายำผสมปนเปกันจนกลายเป็นความกลมกล่อม แน่นอนว่าไม่ใช่ผู้กำกับที่ใหนก็ได้จะเอามาทำแล้วจะออกมาดี ไม่ได้มีตำราเล่มใหนบอกว่า งานดีๆถ้าใครเอามาทำใหม่ แค่ก๊อปของเดิมมาทุกฉากแล้วก็เปลี่ยนตัวละครก็ออกมาดูดีได้แล้ว ดูไซโค กัส แวน ซองค์ นั่นประไร นั่นก็ลอกของเก่ามาทั้งดุ้นแล้วก็ดับแบบไม่เป็นท่า นั่นขนาดรุ่นเดอะเอามาทำนะนั่น ก็เสียผู้เสียคนกันไปพักนึง บางทีของที่มันขึ้นหิ้งอยู่แล้ว อาจจะไม่ควรแตะต้องซะด้วยซ็ำไป อย่างดีก็แค่เสมอตัว อย่างแย่ก็เละเทะตุ้มเป๊ะกันไปเปล่าๆ ไม่ใช่บทต้องเป๊ะ ผู้กำกับต้องเก่ง นักแสดงก็ต้องถ่ายทอดเรื่องราวออกมาได้ดีด้วย และงานแคสติ้งหนังเรื่องนี้ก็พังมาก นอกจากนางเอกที่ถือว่าพอถูไถ ส่วนของพระเอก เพื่อนพระเอก ยุคปัจจุบัน ยุคอดีต คือปังปิ๊นาศมากๆ พระเอกหน้าทรงเดิมตลอด ไม่ว่ายุคสมัยใหน คือทรงต่อ ธนภพ แต่ไม่มีพลังดาราเหมือนต่อ จริงๆแล้วเพื่อนพระเอกยุคอดีต น่าจะมาเป็นพระเอกมากกว่า ดูดีกว่าพระเอกอีก ทั้งคาริสม่าและหน้าตา การแสดง พระเอกดูจ๋องมาก ทั้งๆที่จริงๆต้องดูบ้านนอก และต้องอบอุ่น ซึ่งเขาไม่มีเลย พระรองยังดูมีความจริงใจกว่า ส่วนพระเอกในยุคปัจจุบัน ก็ทรงเต๋อ แต่ไม่มีเสน่ห์เหมือนเต๋อ ( จบ ) เสียดาย หนังไม่ได้ห่วยจนเกินทน แค่ไม่มีอะไรน่าจดจำ และไม่น่าจะรีเมคออกมาเลยจริงๆ
12อริสา ลี, Sommai Lertularn และคนอื่นๆ อีก 10 คน
วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2560
A Monster Calls นิทานของแม่ !!
A Monster Calls ( มหัศจรรย์เรียกอสูร ) - 3 ดาวครึ่ง -
ยอมรับว่าบ่ายเบี่ยงที่จะดูหนังเรื่องนี้อยู่หลายหน แม้เสียงวิจารณ์จะดีอย่างเหลือหลาย แต่ด้วยความที่หน้าหนังดูไม่ถูกโฉลก และคิดว่าน่าจะหนักหน่วง มืดมนหดหู่ ซึ่งเป็นความคิดและการประเมินตัวหนังที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง กะดูก่อนนอนแบบเสียไม่ได้ แล้วก็พบว่า หนังแม่งมหัศจรรย์มากๆ ทั้งดีและกระทบใจอย่างแรงมากๆ มันไม่ใช่หนังเครียดและดูยาก ไม่ใช่หนังรางวัล ไม่ใช่หนังเวทีประกวด นี่คือหนังแฟนตาซีดราม่าที่โคตรกลมกล่อมลงตัวในทุกองศา ทุกองคาพยพ เชี่ย ดาราเล่นดีทุกคน ทั้งๆที่รู้ว่าเซ็ทฉากเซ็ทเรืองแต่แม่งโดนดูดเข้าไปยังกะนั่งล้อมวงฟังนิทาน คืออินมาก เด็กเล่นดีมาก แล้่วฉากดราม่าแม่งก็ไปสุดซอย ที่สำคัญช็อตแฟนตาซีในหนัง เรานึกไม่ถึง มันไปได้ถึงขนาดนี้เลย คือแฟนตาซีกับผมนี่ยอมรับเลยว่าไม่ใช่แนว เพราะเจอก็แต่ลิเก แต่นี่มันไม่ใช่ มันผูกแฟนตาซี กับชีวิตจริงเข้าด้วยกันจนเนื้อเดียว เป็นนิทานก่อนนอนที่ทรงพลังอย่างเหลือแสน เป็นหนังวันแม่ที่บอกเลยว่าต้องติดท๊อปลิสท์ของทุกคนอย่างแน่นอน มาด้วยธีมที่หนักหน่วง แต่ดูแล้วไม่เครียด ไม่มืดมน ชีวิตมันก็แบบนี้แหละ แบบที่หนังสอนเราเป๊ะๆ เด็กอาจจะไม่อิน แต่ต้องโตสักนิดนึงครับ เขาใช้ซีจีมารองรับการเล่าเรื่องได้อย่างสุดยอด งานกำกับภาพขั้นเทพ และฝีมือกำกับของผกก.คนนี้ แม่งของจริง ตัวจริง เสียงจริง เหี้ยต้องรีบมาค้นว่าใครทำ โห ผกก Orphanage กับ Lo impossible นี่มันโคตรพ่อโคตรแม่มหาผู้กำกับนี่หว่า เชรดดดด แนะนำเลยถ้าใครยังไม่ได้ดู นี่คือหนัง Must See Most See ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง อย่าลืมเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ข้างตัวด้วย กับ " นิทานของแม่ "
ผู้เขียน
www.pandagroup.pantown.com
ยอมรับว่าบ่ายเบี่ยงที่จะดูหนังเรื่องนี้อยู่หลายหน แม้เสียงวิจารณ์จะดีอย่างเหลือหลาย แต่ด้วยความที่หน้าหนังดูไม่ถูกโฉลก และคิดว่าน่าจะหนักหน่วง มืดมนหดหู่ ซึ่งเป็นความคิดและการประเมินตัวหนังที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง กะดูก่อนนอนแบบเสียไม่ได้ แล้วก็พบว่า หนังแม่งมหัศจรรย์มากๆ ทั้งดีและกระทบใจอย่างแรงมากๆ มันไม่ใช่หนังเครียดและดูยาก ไม่ใช่หนังรางวัล ไม่ใช่หนังเวทีประกวด นี่คือหนังแฟนตาซีดราม่าที่โคตรกลมกล่อมลงตัวในทุกองศา ทุกองคาพยพ เชี่ย ดาราเล่นดีทุกคน ทั้งๆที่รู้ว่าเซ็ทฉากเซ็ทเรืองแต่แม่งโดนดูดเข้าไปยังกะนั่งล้อมวงฟังนิทาน คืออินมาก เด็กเล่นดีมาก แล้่วฉากดราม่าแม่งก็ไปสุดซอย ที่สำคัญช็อตแฟนตาซีในหนัง เรานึกไม่ถึง มันไปได้ถึงขนาดนี้เลย คือแฟนตาซีกับผมนี่ยอมรับเลยว่าไม่ใช่แนว เพราะเจอก็แต่ลิเก แต่นี่มันไม่ใช่ มันผูกแฟนตาซี กับชีวิตจริงเข้าด้วยกันจนเนื้อเดียว เป็นนิทานก่อนนอนที่ทรงพลังอย่างเหลือแสน เป็นหนังวันแม่ที่บอกเลยว่าต้องติดท๊อปลิสท์ของทุกคนอย่างแน่นอน มาด้วยธีมที่หนักหน่วง แต่ดูแล้วไม่เครียด ไม่มืดมน ชีวิตมันก็แบบนี้แหละ แบบที่หนังสอนเราเป๊ะๆ เด็กอาจจะไม่อิน แต่ต้องโตสักนิดนึงครับ เขาใช้ซีจีมารองรับการเล่าเรื่องได้อย่างสุดยอด งานกำกับภาพขั้นเทพ และฝีมือกำกับของผกก.คนนี้ แม่งของจริง ตัวจริง เสียงจริง เหี้ยต้องรีบมาค้นว่าใครทำ โห ผกก Orphanage กับ Lo impossible นี่มันโคตรพ่อโคตรแม่มหาผู้กำกับนี่หว่า เชรดดดด แนะนำเลยถ้าใครยังไม่ได้ดู นี่คือหนัง Must See Most See ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง อย่าลืมเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ข้างตัวด้วย กับ " นิทานของแม่ "
ผู้เขียน
www.pandagroup.pantown.com
วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559
Shin Godzilla เอิ่ม ... นี่มันหนังการเมืองนี่นา ?
Shin Godzilla ( ก๊อดซิลล่า ) - 3 ดาว -
เป็นหนังที่ญี่ปุ่นมาก เหมือนบันทึกภาพความทรงจำ ทัศนคติ เจตนารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ความเป็นมาเป็นไป และตัวตนของชาวญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น แปรรูปออกมาเป็นหนังสัตว์ประหลาดถล่มโลก จริงๆหนังสร้างมาร่วมๆครึ่งร้อยปีแล้ว ผ่านการวิวัฒนาการมาไม่รู้เท่าไหร่ จนถึงจุดอิ่มตัว จุดตกผลึก เค้าถึงได้กล้าที่รังสรรค์ผลงานในระดับที่ช็อคโลกออกมาได้ถึงขนาดนี้ มันบ้ามาก นี่ไม่ใช่หนังที่บันเทิงสำหรับคนหมู่มาก มันยาวถึง 2 ช.ม. ว่าด้วยมนุษย์ และการแก้ปัญหา ผ่านวิก...ฤตครั้งใหญ่ของมนุษย์ เป็นรูปแบบการบูรณาการ โดยมนุษย์ เพื่อมนุษย์เท่านั้น !! เรียกว่ามนุษย์นิยมขนานแท้ ? แทนที่จะไปโฟกัสการถล่มเมืองของก๊อดซิลล่าเหมือนเวอร์ชั่นอื่นๆที่ผ่านมา หนังกลับเล่าถึงวิธีการรับมือกับปัญหาก๊อดซิลล่าบุกเมืองล้วนๆ โดยคนที่รับผิดชอบสูงสุดคือนักการเมืองญี่ปุ่น และผู้บริหารและหน่วยงานสำคัญทั้งมวล ทุกคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเอง มีวินัย มีขั้นตอนและรูปแบบการปฏิบัติ การรับมืออย่างเป็นขั้นๆ ไม่ก้าวก่ายงานกัน สามัคคีกัน และพยายามที่จะก้าวผ่านมันไปด้วยกัน ไม่มีใครที่คิดจะขโมยซีนเอาหน้า ออกทีวีสร้างภาพ ไม่ต้องมีการปั้นปูชนียบุคคลมาเป็นภาพจำ มาเป็นเทวดา ทุกคนก็คือมนุษย์ 1 คน 1 ความเท่าเทียม นักการเมืองก็คือตัวแทนของประชาชน สั่งการเพื่อประชาชน โดยประชาชน จะบอกว่านี่คือหนังนักการเมืองในอุดมคติเลยก็อาจจะกล่าวเกินไป เพราะหนังทำให้ผมเชื่อว่า นักการเมืองในหนังคือนักการเมืองญี่ปุ่นในโลกความเป็นจริง ผมรู้สึกเชื่อว่าถ้าเกิดวิกฤตแบบในหนัง เขาก็จะทำแบบนั้นจริงๆ และผมก็เชื่อว่านักการเมืองดีๆมีอยู่ทุกที่ในโลก เพราะนักการเมืองก็คือตัวประชาชนนั่นแหละ ถ้าบอกว่านักการเมืองเลวชั่ว ก็เท่ากับชี้หน้าด่าว่าคนประเทศนั้นเลวชั่ว เพราะ นักการเมือง = ประชาชน ส่วนไอ้พวกตำแหน่งอื่นที่เสร่อมาเสือกแย่งหน้าที่นักการเมือง ผมเรียกตัวเหี้ย !! ในขณะที่หนังแนวนี้บางประเทศ ก็จะโฟกัสแต่นักรบ แต่ผู้นำ แต่ก๊อดซิลล่า ไม่ได้เน้นแค่ขุนศึก หนังเน้นภาพประชาชนในหลายๆครั้ง แม้ว่าจะมีส่วนร่วมมีบทบาทในภาพรวมน้อยมาก แต่เค้าก็ทำให้เห็นว่า ทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติของตัวเอง มีขอบเขตและสามารถเสริมสร้าง มีส่วนช่วยให้องค์รวมของสังคม ดีขึ้นได้เพียงใด ถ้าทุกคนไม่เข้าคิวกันขึ้นรถ ไม่อพยพตามคำแนะนำของรัฐ ไม่ทำตามแบบแผนปฏิบัติ สังคมและบ้านเมืองจะโกลาหลเพียงใด ถ้าใครต่างเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็เรียกร้องในขณะที่บ้านเมืองกำลังวิกฤต สุดท้ายทุกคนก็ได้ฉิบหายกันหมด แล้วก็ได้แต่เหลือบมองบางประเทศด้วยสายตาอิจฉา ยกย่องเขาเป็นประเทศอุดมคติ อยากไป อยากเป็น แต่ไม่มีปัญญาเป็นอย่างเขา เพราะไม่เคยที่จะเริ่มประพฤติ ปฏิบัติ จากตัวเองก่อนเลยสักครั้ง !!
ผู้เขียน
www.pandagroup.pantown.com
เป็นหนังที่ญี่ปุ่นมาก เหมือนบันทึกภาพความทรงจำ ทัศนคติ เจตนารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ความเป็นมาเป็นไป และตัวตนของชาวญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่น แปรรูปออกมาเป็นหนังสัตว์ประหลาดถล่มโลก จริงๆหนังสร้างมาร่วมๆครึ่งร้อยปีแล้ว ผ่านการวิวัฒนาการมาไม่รู้เท่าไหร่ จนถึงจุดอิ่มตัว จุดตกผลึก เค้าถึงได้กล้าที่รังสรรค์ผลงานในระดับที่ช็อคโลกออกมาได้ถึงขนาดนี้ มันบ้ามาก นี่ไม่ใช่หนังที่บันเทิงสำหรับคนหมู่มาก มันยาวถึง 2 ช.ม. ว่าด้วยมนุษย์ และการแก้ปัญหา ผ่านวิก...ฤตครั้งใหญ่ของมนุษย์ เป็นรูปแบบการบูรณาการ โดยมนุษย์ เพื่อมนุษย์เท่านั้น !! เรียกว่ามนุษย์นิยมขนานแท้ ? แทนที่จะไปโฟกัสการถล่มเมืองของก๊อดซิลล่าเหมือนเวอร์ชั่นอื่นๆที่ผ่านมา หนังกลับเล่าถึงวิธีการรับมือกับปัญหาก๊อดซิลล่าบุกเมืองล้วนๆ โดยคนที่รับผิดชอบสูงสุดคือนักการเมืองญี่ปุ่น และผู้บริหารและหน่วยงานสำคัญทั้งมวล ทุกคนต่างรู้หน้าที่ของตัวเอง มีวินัย มีขั้นตอนและรูปแบบการปฏิบัติ การรับมืออย่างเป็นขั้นๆ ไม่ก้าวก่ายงานกัน สามัคคีกัน และพยายามที่จะก้าวผ่านมันไปด้วยกัน ไม่มีใครที่คิดจะขโมยซีนเอาหน้า ออกทีวีสร้างภาพ ไม่ต้องมีการปั้นปูชนียบุคคลมาเป็นภาพจำ มาเป็นเทวดา ทุกคนก็คือมนุษย์ 1 คน 1 ความเท่าเทียม นักการเมืองก็คือตัวแทนของประชาชน สั่งการเพื่อประชาชน โดยประชาชน จะบอกว่านี่คือหนังนักการเมืองในอุดมคติเลยก็อาจจะกล่าวเกินไป เพราะหนังทำให้ผมเชื่อว่า นักการเมืองในหนังคือนักการเมืองญี่ปุ่นในโลกความเป็นจริง ผมรู้สึกเชื่อว่าถ้าเกิดวิกฤตแบบในหนัง เขาก็จะทำแบบนั้นจริงๆ และผมก็เชื่อว่านักการเมืองดีๆมีอยู่ทุกที่ในโลก เพราะนักการเมืองก็คือตัวประชาชนนั่นแหละ ถ้าบอกว่านักการเมืองเลวชั่ว ก็เท่ากับชี้หน้าด่าว่าคนประเทศนั้นเลวชั่ว เพราะ นักการเมือง = ประชาชน ส่วนไอ้พวกตำแหน่งอื่นที่เสร่อมาเสือกแย่งหน้าที่นักการเมือง ผมเรียกตัวเหี้ย !! ในขณะที่หนังแนวนี้บางประเทศ ก็จะโฟกัสแต่นักรบ แต่ผู้นำ แต่ก๊อดซิลล่า ไม่ได้เน้นแค่ขุนศึก หนังเน้นภาพประชาชนในหลายๆครั้ง แม้ว่าจะมีส่วนร่วมมีบทบาทในภาพรวมน้อยมาก แต่เค้าก็ทำให้เห็นว่า ทุกคนมีหน้าที่ปฏิบัติของตัวเอง มีขอบเขตและสามารถเสริมสร้าง มีส่วนช่วยให้องค์รวมของสังคม ดีขึ้นได้เพียงใด ถ้าทุกคนไม่เข้าคิวกันขึ้นรถ ไม่อพยพตามคำแนะนำของรัฐ ไม่ทำตามแบบแผนปฏิบัติ สังคมและบ้านเมืองจะโกลาหลเพียงใด ถ้าใครต่างเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็เรียกร้องในขณะที่บ้านเมืองกำลังวิกฤต สุดท้ายทุกคนก็ได้ฉิบหายกันหมด แล้วก็ได้แต่เหลือบมองบางประเทศด้วยสายตาอิจฉา ยกย่องเขาเป็นประเทศอุดมคติ อยากไป อยากเป็น แต่ไม่มีปัญญาเป็นอย่างเขา เพราะไม่เคยที่จะเริ่มประพฤติ ปฏิบัติ จากตัวเองก่อนเลยสักครั้ง !!
ผู้เขียน
www.pandagroup.pantown.com
วันอาทิตย์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2559
Hardcore Henry บอกแล้วอย่าได้เอา Gopro มาถ่ายหนัง มันไม่เวิร์ค !!
Hardcore Henry ( 2 ดาวครึ่ง ) นานๆทีได้ดูหนังรัสเซีย คือจริงๆจะบอกว่าผิดหวังพอสมควรเลยนะ จริงๆคิดว่ามันน่าจะฉลาดกว่านี้ และดีกว่านี้ ยืนยันอีกครั้ง Gopro เอามาถ่ายหนัง เอามาถ่ายวีดีโอ แม่งไม่เวิร์คเลย มุมกล้องชวนให้ปวดหัว ดูสักสี่ห้านาทีก็พอได้ แต่ถ้าเอามาดูยาวๆ หรือเอาไปถ่ายภาพนิ่ง แม่ง คิดผิดสัสๆ โง่เข้าขั้นอนันต์เลยนะ อย่าได้เป็นเหยื่อกระแสนิยมเลยพับผ่าสิ หนังเรื่องนี้ก็เช่นกัน หน้าหนังฉาบฉวย จริงๆคือมันขายวิชวลอ่ะนะ งานภาพน่าตะลึงตื่นตา ซึ่งก็ทำได้อยู่แค่ 20 - 30 นาทีแรกเ...ท่านั้นไม่เกิน ก่อนจะพบว่า บทหนังพังมาก มั่วมาก แล้วก็ไม่มีหลักอะไรให้ยึดเลย คือมั่วเอามันส์ ใส่ความงง ปนความโหด ยัดเข้าไปแบบไม่ยั้ง จนไม่มีอะไรให้ยึดเหนี่ยวได้อีกต่อไปแล้ว มันไม่เหลือความน่าเชื่อถือ หรืออะไรให้เรารู้สึกอินไปกับมันได้เลย ทุกอย่างเหมือนเกมส์ เหมือนหลอกไปหมดจนคนดูไม่ต้องเชื่ออะไรอีกแล้ว แบบนี้ก็จบครับ จริงๆถ้ามันเป็นหนังสั้นหรือคลิปสั้นอาจจะสนุกกว่านี้ แต่พอเป็นหนังยาว บอกได้คำเดียวว่าไม่ผ่าน พล็อตสั้นๆคำสองคำ จะเอามาขยายเป็นหนังให้ออกมาเข้าท่ามันไม่ง่ายนะครับ ถ้าสรุปสองคำสั้นๆสำหรับเรื่องนี้ก็คือ " หนังห่วย "
ผู้เขียน
http://www.pandagroup.pantown.com/
ผู้เขียน
http://www.pandagroup.pantown.com/
วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2559
ค่ายอาสาในความทรงจำของข้าพเจ้า
งานอาสา มันก็เป็นอะไรที่อยู่บนเส้นบางๆระหว่างความไร้สาระ กับความจริงจังสุดขั้วระดับห้วงจักรวาล มันสอนให้เรารู้จักเลือก รู้จักแบ่งเวลา รู้จักผู้คน รู้จักวัฐจักรและความเป็นไปของชีวิต สอนให้เรารับรู้วิธีการที่ใช้ในการดำเนินชีวิต และปรับเปลี่ยน รวมถึงยอมรับว่าบางอย่างในโลกนี้มันอยู่นอกเหนือจากการตัดสินใจของเราเช่นกัน และบางทีมันก็อาจจะไม่ได้สอนอะไรเราเลย เพียงแต่เราคิดไปเองว่าเราได้รับบทเรียน เหนืออื่นใดผมเชื่อว่าค่ายอาสาก็เป็นอีกบทเรียนชีวิตที่สนุก ใช่สิ อะไรที่เราคิดว่าไม่สนุก เราคงทนกับมันไม่ได้เป็นปีๆจริงใหมครับ ( ยกเว้นเมีย หรือผัว ) ค่ายอาสาก็เหมือนรูปภาพ เมื่อเราไปค้นอัลบั้มเก่าๆ หยิบมันขึ้นมาดูทีไร ความทรงจำมันก็พรั่งพรูออกมา ไม่รู้หรอกว่าประทับใจหรือเปล่า เพราะมันหลอมรวมไปด้วยทั้งความสุขและทุกข์ ความสดชื่น ความเจ็บปวด ความรักที่อยู่ในรูปภาพงานค่ายนั่นล่ะ ซึ่งเราจะพกมันไปติดตัวด้วยตลอดชีวิต ความทรงจำเหล่านั้นแหละที่หล่อหลอมให้เรารู้ว่า ชีวิตคือชีวิต และเรายังมีลมหายใจอยู่ ผมเชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาสัมผัสค่ายอาสามีความทรงจำแตกต่างกันไป และค่ายไม่มีทางเปลี่ยนใครได้ มนุษย์ไม่มีทางเปลี่ยนได้ ผมเชื่อว่าค่ายอาสาอาจทำให้ใครหลายคนเปิดใจหากันได้ในช่วงเวลาสั้นๆ อาจเป็นหน้าสองหน้าในหนังสือที่เรียกว่าชีวิต แต่ถ้าใครได้ย้อนกลับมาเปิดหน้านั้นอีกครั้งอาจจะถามตัวเองว่า .....
Job 51
www.pandagroup.pantown.com
www.youtube.com/joblovenuk
www.facebook.com/ayuwatangkhawut
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
อุทยานเขากระโดง อีกที่น่าเที่ยวของบุรีรัมย์
เด๋วนี้บุรีรัมย์ไม่ได้มีแค่ปราสาทหินแล้วนะครับ
เขามีสนามฟุตบอลสวยงามด้วย
แถมยังมีภูเขาไฟอีกต่างหาก
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ
ตามไปดูกันให้ไวๆเลยครับ
อยู่ใกล้ๆสนามฟุตบอลนั่นแหละ
ขับรถไปอีกไม่เกินสิบนาที
ตามมาเที่ยวเหมือนเราสิครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)