วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

~ ของสะสมในอดีต บัตร ATM ใบแรกหรือเปล่าไม่แน่ใจ ~

.......... เมื่อก่อนสมัยเด็กๆ เคยสะสมบัตรเอทีเอ็มด้วยแหละ สมัยนั้นเค้าไม่ได้คิดค่าธรรมเนียมมหาโหดแบบสมัยนี้ ทำก็ฟรีเสียตังเปิดบัญชีแค่ร้อยเดียวเองมั้ง ก็เลยทำไว้แทบทุกธนาคารที่เค้าเปิดให้ทำ สมัยนั้นเพิ่งจะมีบัตรเอทีเอ็มใช้ได้ไม่นาน ผมเลยทำเป็นสมุดใส่บัตรเลย ถ้าจำไม่ผิดมีอยู่สักเกือบๆยี่สิบบัตรได้มั้ง สมัยก่อนโน้นบัตรเค้าก็ไม่ได้หรูหราอะไร แค่ทำไว้ใช้การได้ แต่มีอยู่ใบเดียวที่ยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบันนี้ก็คือบัตรและบัญชีของธนาคารไทยพาณิชย์ เงินก็เข้าๆออกตลอด ค่ารายปีก็ไม่มีมั้ง มีแต่ค่าธรรมเนียมบัตรธรรมดาเหมือนจะปีละร้อยครับ ให้ทำใหม่ก็ไม่อยากทำ เพราะถ้าทำเป็นเดบิตค่ารายปีมันแพง ใช้จนบัตรหักไปแล้ว หักสองท่อนเลยนะครับ แต่ก็ยังใช้งานได้อยู่ เอาก็อตเทปมาติด ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันยังใช้ได้ ดูอายุบัตรซะก่อนสิครับ สมัครตั้งแต่ปี 1991 ถึงวันนี้ก็ครบ 20 ปีซะแล้ว อายุบัตรเอทีเอ็มใบนี้มากกว่าอายุเด็กเกรียนๆบางตัวที่มันคอยรังควาน หรือสร้างความวุ่นวายให้กับผมซะอีก ถ้าเป็นคนอื่นก็คงทำใหม่ไปแล้ว คุณนายแกก็บอกให้ผมไปทำใหม่กลัวว่าบัตรจะโดนดุด แต่ผมก็เก็บอย่างดี แล้วก็ดูไม่เคยจะมีปัญหา เพราะงั้นก็คงจะต้องใช้ไปก่อน ขี้เกียจเสียเวลาไปทำบัตรใหม่ เปลืองตังด้วย ที่เหลือในกระเป๋าตังก็มีแต่บัตรเดรดิตแล้ว จากที่เคยมี สี่ใบ ตอนนี้ลดเหลือ สามใบ ปิดบัตรไปใบนึง ที่เหลือก็เคลียร์เงินหมดแล้ว เหลือไว้ถือเผื่อฉุกเฉินเท่านั้นเองครับ สบายๆ

http://www.pandagroup.pantown.com/

วันพฤหัสบดีที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

~ เดือนนี้ joblovenuk โดนภาษีกะประกันสังคมไปอีก 7 พันกว่า ~

..... เฮ่อ ภาษีหนักข้อจริงๆ เห็นรัฐบาล กับพวกกองทัพ จะเรียกร้องเอาโน่นเอานี่จากภาษีของผม ไปปู้ยี้ปู้ยำ นึกแล้วน่าแค้นใจครับ เสียไปเดือนๆนึงหกพันเจ็ดพัน เอาไปให้มันใช้อีลุ่ยฉุยแฉก แถมยังมีหน้ามากร่าง ด่า มาข่มขู่ประชาชนอีก เลวระยำจริงๆไอ้พวกข้าราชการชั้นสูง เวลาก็มีน้อย แล้วยังจะดันอัพบล็อคอีก เบื่อจริงๆ สงสัยอีกหน่อยคงไม่ได้มาเขียนบล็อคแบบนี้บ่อยๆแน่ๆ ต้นเดือนหน้าคุณนายก็คลอดออสการ์อีกคนแล้ว จะเอาเวลาที่ใหนมาเขียนไดอารี่ออนไลน์ฟะเนี่ย กลับมาเรื่องภาษีกันก่อนดีกว่า ถ้ารัฐบาลลดภาษีซะบ้างก็ดีนะ หรือไม่ก็แจกแจงให้ประชาชนอย่างเราได้เห็นว่า ภาษีเอาไปใช้ทำอะไรได้บ้าง ก็เหมือนกับประกันสังคมนั้นแหละ จ่ายเดือนๆนึงก็หลายตัง แต่เห็นหลายๆคนได้รับการบริการทางการแพทย์กันอย่างห่วยแตกสิ้นดี นึกแล้วก็เสียดายเงินอีกสองเท่า

http://www.pandagroup.pantown.com/

วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

~ คะแนน TOEIC ของ Joblovenuk อยู่ประมาณ 7 - 800 คะแนนจ๊ะ ~

..........รอบสิบปีที่ผ่านมา ก็เคยมีโอกาสไปสอบวัดระดับภาษา โทอิค อยู่บ่อยครั้ง นับได้น่าจะราวๆ 6 - 7 ครั้ง ตั้งแต่สมัยค่าสอบยังสัก 500 แล้วก็ขึ้นมาเรื่อยๆ เดี๋ยวนี้รู้สึกจะพันสองแล้วมั้ง แพงจริงๆเล้ย แต่ถ้าใช้สิทธิพนักงานบริษัทผมก็เหลือประมาณ 600 กับ 800 คืออันหลังนี่ไปรับผลได้ แต่อันแรกนี่เค้าไม่พิมพ์ผลคะแนนให้ แต่จะส่งมาที่บริษัทเลย ก็สนุกดีครับ เป็นการท้าทายและก็วัดผลความสามารถไปในตัว ผลโทอิคนี้ก็มีหลายบริษัท โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว สายการบิน และอีกหลายองค์กรที่เอามาเป็นตัววัดความสามารถ บ้างก็ได้ค่าภาษา หรือมีเบเนฟิตอื่นๆประกอบด้วย หรือไม่ก็เป็นตัวชี้ว่าความรู้คุณมีมากน้อยแค่ใหน ข้อสอบมีสองร้อยข้อ ฟังครึ่งนึง ข้อเขียนครึ่งหนึ่ง ไอ้ที่ยากก็จะอยู่ส่วนหลัง จริงๆข้อสอบชุดนี้ทั้งหมดไม่ยากนะครับ ถ้ามีเวลาทำพอสมควร ปัญหาคือมันต้องทำแข่งกับเวลา พูดง่ายๆก็คือ ส่วนใหญ่แทบจะร้อยทั้งร้อย ทำข้อสอบชุดนี้ไม่ทันครับ

.........เวลามีน้อย ข้อสอบมีเยอะ มีเวลาให้คิดแต่ละข้อน้อยมาก โดยเฉพาะส่วนของการฟังคือรอบเดียวผ่านแล้วผ่านเลย ต้องตาไว หูไว จับคำถามให้ได้ไวๆ แล้วก็รีบตอบ ถ้ารู้ว่าตัวเองทำผิด ห้ามลน ห้ามสติแตก ต้องโยนทิ้งอันที่ผิดพลาดแล้วก็เลยต่อไปเลยครับ ส่วนใหญ่เวลาเราทำอะไรผิดพลาดแล้วเราจะเสียสติ จะเครียด จะกดดัน ทำให้หลายข้อที่ตามมาเราก็จะทำพลาดไปด้วย และรวมถึงส่วนของเทกซ์เช่นกัน ผมเองนั้นจะถนัดส่วนเทกซ์ถามตอบ เพราะว่า ข้อสอบแบบที่มีอะไรให้อ่าน แล้วมีคำถามนั้น เราทำได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ถึงร้อยก็เกือบร้อย เพราะข้อความแบบที่ส่งให้มาหรือตามหนังสือพิมพ์ เราอ่านได้อยู่แล้ว ไม่พลาดแน่ๆ ยกเว้นเจอคำถามลวง ต้องดูให้ดีๆ แต่จะยากก็ตรงส่วนของแกรมม่า เช่น รูปประโยคแบบใหนมีคำผิด หรือการเลือกคำศัพท์ ซึ่งคล้ายคลึงกันมาก ตรงนี้จะพลาดได้ แนะนำให้ทำทีหลังครับ ทำส่วนที่ตัวเองถนัดก่อน แล้วค่อยเลือกทำส่วนที่ตัวเองไม่ถนัดอันหลังสุด หรืออาจจะมั่วไปก็สุดแท้แต่ จริงๆตรงนี้มีเทคนิคมากมายที่อยากแนะนำ เช่นการฟัง ถ้าฝึกฟังข่าว หรือฟังรายการต่างประเทศให้เยอะไว้ ก็จะคุ้นเคยกับสำเนียงฝรั่งครับ จะมีโอกาสฟังได้คล่องและลื่นมากขึ้น ส่วนแกรมม่านี่คงต้องอาศัยพื้นๆแล้วครับ ไม่สามารถติวอะไรได้

http://www.pandagroup.pantown.com/



วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ศพไม่เงียบ .... กะเทาะวงการผ้าเหลืองได้แสบสันต์สุดๆ !!




.................. โอ้โฮ หนังฝรั่งทำ คนไทยแสดงเรื่องนี้ต้องบอกว่า ทำให้อึ้ง ตะลึง และตื่นเต้นไปได้ในเวลาเดียวกัน เนื่องจากหนังเกี่ยวกับวัด กับศาสนา พระสงฆ์องค์เจ้า คนไทยไม่กล้าทำหรอกครับ ทำออกมาก็ไม่พ้นโดนแบน โดนเซนเซอร์ แปลกใจทำไมหนังเรื่องนี้เข้าฉายได้อย่างรอดปรอดโปร่ง ขนาดเจ้ย ทำหนังที่พระดีดกีตาร์หน่อยเดียว ยังโดนหั่น นี่พระในหนังทำแบบที่เราคนไทยชาวพุทธ รู้เซ่นเห็นชาติ แต่ไม่กล้าอ้าปากพูด ฝรั่งมันทำซะเราอึ้งไปเลย หรือเพราะเป็นฝรั่งทำหนัง ก็เลยผ่านตลอด เพราะคนไทยยกย่องฝรั่ง ถ้าคนไทยทำกันเอง ทำเป็นดีดสะดิ้งรับไม่ได้ ฝรั่งเอามาแฉ พร้อมใจกัน อื้ออึ้ง ยอมรับว่า แบบนี้ก็มีอยู่จริง ไหง๋เป็นงั้นไปได้วะ งงจริงๆพับผ่าสิ !! ตกลงมันกี่มาตรฐานวะ คนชาติเดียวกันทำมึงรับไม่ได้ แต่ฝรั่งทำมึงรับได้ ไอ้พวกควายก.บ.ว.มันเจอหนังเรื่องนี้เข้าไปแล้วมันไม่ชักตาตั้งหรือวะ งงจริงๆพับเผื่อยสิ ... หนังเล่าเกี่ยวกับการฆาตกรรมอันโหดเหี้ยมภายในวัด ศพที่เจอโดนควักลูกตา โดนเอาเทียนยัดปาก มีร่องรอยการทรมาณก่อนตาย แต่ไม่มีใครสนใจ ตำรวจบอกว่าเป็นเพราะเด็กที่ตายเป็นแค่เด็กจรจัด ไม่มีอะไรให้น่าสืบสวนนอกจากโยนความผิดไปว่า เป็นเพราะการขัดแย้งปัญหายาเสพติดภายในวัด

................... แค่เล่าเรื่องด้านมืดภายในวัดไม่พอ หนังเรื่องนี้มีครบทุกประเด็นครับ ไม่ว่าการค้ายาภายในวัด พระลูกวัดมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กิจของสงฆ์ที่ไม่น่าจะเป็นกิจของสงฆ์ และเรืองเงินๆทองๆ รวมถึงเรื่องสกปรกอีกหลายอย่างที่คนนอกอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน หรือถึงรู้ก็ไม่อยากจะเข้าไปข้องเกี่ยว เพราะใครๆก็ไม่มีใครอยากเอามือซุกหีบ สุดท้ายพระตัวเอกที่เคยเป็นตำรวจมาก่อนก็ค่อยๆสืบคดีกันไป จนน่าตกใจว่า เรื่องราวมันซับซ้อน ซ่อนเงื่อน มีอะไรที่เกินความคาดหมายอยู่เยอะ หนังฉลาดที่ใช้ลูกหลอกเยอะมาก เล่นเอาคนดูที่พยายามจะเดาเอาหัวทิ่มหัวตำ มีการส่งซิ่กว่าอาจจะเป็นแบบนั้น อาจจะเป็นแบบนี้ เป็นคนโน้นหรือเปล่า ใส่ตัวละครที่น่าสงสัยเข้ามาเต็มไปหมด ทำท่าให้น่าคิดว่าจะมีส่วนข้องเกี่ยวกับการฆาตกรรม จนทำให้เดาทางได้ยากมาก แถมยังสร้างบรรยากาศเขย่าขวัญแบบเนียนๆโดยไม่ต้องจัดองค์ประกอบภาพให้มากเรืองและไม่ได้เน้นงานภาพที่ทำให้ดูเคลิ้ม แต่เล่นกันแบบธรรมชาติมากๆสุดๆ การได้นักแสดงที่ไม่คุ้นหน้ามาเล่นก็ช่วยสร้างความสมจริงมากขึ้นไปอีก โดยภาพรวมนี่คือหนังที่น่าพอใจสุดๆในแง่ของการเล่าเรื่อง ความแปลกใหม่ เพราะโลกของสงฆ์ เป็นเหมือนอีกโลกที่คนดูส่วนใหญ่ไม่คุ้นเคย ยิ่งเป็นภาพแบบที่เห็นในหนังแล้วด้วย ต้องบอกว่าน่าดีใจที่มีคนหยิบเรื่องราวในวัดในวาออกมาทำหนังแนวนี้ น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบครับ บอกได้แค่นี้

http://www.pandagroup.pantown.com/

วันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

- รำคาญ มายาคติชนชั้นกลาง จอมปลอม !! -

..................สัปดาห์ที่ผ่านมา ในเฟสบุคและทวิตเตอร์ หรือรวมถึงตามบอร์ด เชื่อเลยว่ามีฝ่ายที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งออกมาคร่ำครวญ ด่าทอ สาปแช่ง ตำหนิ แขวะ ก่นด่า ผู้ที่เลือกตั้งอีกฝ่าย หาว่าโง่ หาว่าไม่มีสมอง หาว่ามีการศึกษาต่ำกว่ากันบ้างก็มี หลายเหตุผลที่พวกนึ้มันพูดมา ก็เหมือนเป็นการประจานตัวเองแหละครับ เพราะในความเป็นจริง ชนชั้นกลาง หรือพวกที่พอมีการศึกษา พอมีเงินทองบ้าง พอมีพอกิน ต่างก็ไม่ต่างอะไรจากพวกชนชั้นรากหญ้าที่พวกเค้าเข้าไปด่ากันนั่นแหละครับ บางคนถึงขนาดทำการ์ตูนล้อเลียนว่า ชนชั้นรากหญ้า ออกลูกกันเยอะ ประชากรคุณภาพต่ำแต่ปริมาณเยอะกว่า ก็เลยชนะการเลือกตั้ง ผิดกับพวกเค้าที่มีการศึกษาดีกว่า ออกลูกกันน้อยกว่า ก็เลยแพ้กันเลือกตั้ง คิดกันได้ขนาดนั้น ถุย !! ฟังแล้วอนาถครับ ชนชั้นกลางจอมปลอมพวกนี้ ถึงตัวเป็นไท แต่ใจเป็นทาสครับ เมืองไทยเลิกทาสกันแต่ในนามครับ แต่คนกลุ่มนึงกลับใช้อกุศโลบาย หลอกล่อ ปั่นหัว และฝังความคิดโง่ๆให้พวกชนรุ่นหลังเชื่อถือบางสิ่งบางอย่าง จนไม่ได้ฉุกคิดอะไรสักนิดเดียว เพื่อประโยชน์ทางการเมืองบางอย่าง น่าสมเพช แล้วพวกที่มีการศึกษาเหล่านี้กลับคิดเองไม่เป็น ถูกมอมเมา ถูกสอนสั่งให้เชื่อบางสิ่งโดยไม่ได้คิดตามเลยสักนิดว่า ความจริงมันคืออะไรแน่ ?

..................ตรองดูนะครับ พวกชนชั้นกลางเหล่านี้ ด่า และดูถูกคนต่างจังหวัด คนรากหญ้าว่า ไม่มีการศึกษา ยากจน ซื้อเสียงได้ ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง โดนจูงจมูก ทั้งๆที่ความจริงคนต่างจังหวัดก็ใช้ชีวิตไม่ต่างจากคนเมืองนั่นแหละครับ มีความเจริญเข้าถึงไม่ต่างกัน มีตึกรามบ้านช่องสูงๆ ใช้รถเก๋ง ทำงานออฟฟิศ ทำงานแทบไม่ต่างจากคนเมืองครับ การมองดูถูกคนต่างจังหวัดที่คิดไม่เหมือนตัวเองนั้น ก็ไม่ต่างจากฝรั่งขี้นก ฝรั่งที่อยู่ในกะลา ที่คิดเสมอว่า คนไทย หรือคนเอเซีย คนอัฟริกายังล้าหลัง ขี่อูฐ ขี่ช้าง ขี่ควายไปทำงาน ยากจนข่นแค้น โดยหารู้ไม่ว่าเดี๋ยวนี้คนในอีกซีกโลกนึงที่ตัวเองไม่เคยไปเห็นกับตาตัวเองนั้น ก็ใช้ชีวิตไม่ต่างจากตัวเองนักหรอก เผลอๆจะมีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าตัวเองด้วยซ้ำ มันก็เลยกลายเป็นภาพฝังหัวไป พวกชนชั้นกลางจอมปลอม กลวงๆนี่ก็ไม่ต่างกัน คิดโง่ๆ ทำแต่เรื่องโง่ๆ โดนฝังเรื่องโง่ๆมา สุดท้ายก็กลายเป็นควายโดยไม่รู้ตัว เป็นทาสโดยนิตินัย เจอชนชั้นสูง เจ้านายผ่านไปมาก็กราบไหว้ ไม่เคยเชือว่ามนุษย์มีความเท่าเทียมกัน น่าสมเพชสิ้นดี ความคิดแบบนั้นพอถูกส่งต่อมันก็ยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่ ทำอย่างไรจะให้ความคิดเหล่านี้เปลี่ยน เราก็ต้องสอนจากคนในครอบครัวเราก่อน อย่าให้โง่เหมือนพวกที่อ้างตัวเองเป็นชนชั้นกลางน่าสมเพชเหล่านั้น

http://www.pandagroup.pantown.com/

วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

..... แวะไปหม่ำๆซิสเล่อร์ที่ฟิวเจอร์แสนอร่อยแล้วก็เลยเดินเล่น ดูโน่นดูนี่ เจอ ลิตเติลโฮม เบเกอรี่ นึกถึงป้าจวบขึ้นมาเลย เพราะป้าจวบเคยทำงานที่ร้านนี้เป็นเวลาหลายสิบปี ไม่ได้ไปเยี่ยมป้าจวบนานแล้ว ว่าจะหาเวลาไปเยี่ยมคุณป้าสักหน่อย เมื่อก่อนคุณป้าก็แวะมาหาเราบ่อยๆแทบจะทุกวันเกิด ไม่รู้สุขภาพแกจะเป็นไงบ้าง เมนูอร่อยของร้านนี้ก็มีหลายอย่าง ปีนี้ซื้อเค๊กมาชิมด้วย ก็เป็นเค๊กวันเกิดก็อร่อยดีครับ รสชาติไม่แพ้เอสแอนด์พี แต่ราคาถูกกว่ากันสักร้อยนึงได้ ส่วนเมนูอื่นๆที่ขอแนะนำเลย ก็คือ กล้วยเคลือบช็อกโกแลต ซึ่งมีเจ้านี้ทำเจ้าเดียวครับ ไม่มีเจ้าอื่นทำขาย อร่อยแบบเป็นสูตรเฉพาะของเค้า เหมือนกับที่กาโต้เฮ๊าส์ มีปังช็อกเป็นทีเด็ดนั่นแหละครับ อันนี้เป็นกล้วยช็อค เดี๋ยวนี้ราคาขึ้นมาถึง 25 บาทแล้ว ก็ถือว่าแพงเหมือนกัน แต่นานๆชิมทีก็ไม่เลวครับ ใครผ่านไปก็ลองไปพิสูจน์นะครับ จริงๆแล้วบัตเตอร์เค๊ก หรือเมนูอื่นๆเค้าก็ทำอร่อยนะครับร้านนี้ ดีจังที่มีสาขาแถวบ้านเราด้วย เพิ่งจะรู้

http://www.pandagroup.pantown.com/





วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ทำบุญตักบาตร ฉลองวันเกิดครบรอบ 38 ปี .....

........ แป๊ปเดียวจะ 40 แล้ววุ้ย ยังรู้สึกเหมือนสัก 20 อยู่เลย 555 วันนี้เป็นอีกวันที่น่ายินดี เพราะเมืองไทยเราจะได้มีนายกหญิงคนแรกของประเทศสักที คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็น่ายินดีด้วย เป็นข่าวดีฉลองวันเกิดเลยทีเดียว นึกเสียดายผลการเลือกตั้งบางเขตของกรุงเทพ แอบผิดหวังเล็กๆแต่ก็ต้องเคารพการตัดสินของประชาชน และหวังว่าประชาชนที่ผิดหวังการเลือกตั้ง หรือแพ้การเลือกตั้ง ต้องหัดรู้จักเคารพเสียงข้างมากของประเทศบ้าง ไม่ใช่ว่าอะไรก็จะเอาแต่ใจ จะก่อม๊อบ จะตีรวน จะปั่นป่วนสารพัด บ้านเมืองมันวุ่นวายก็เพราะไอ้พวกเหี้ยพวกนี้ที่ไม่รู้จักยอมรับมติของประชาชนนั่นแหละครับ หวังว่าเมืองไทยคงจะเดินหน้าสู่การปรองดองอย่างแท้จริงและนำ พตท ทักษิณ ชินวัตร กลับมาเมืองไทยโดยสวัสดีเสียที

http://www.pandagroup.pantown.com/