วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Joblovenuk's วิจารณ์ Redemption .... หนังของท่านเจ้าลัทธิปิงปิง !!

Redemption ( ไถ่บาปด้วยบุญมาร ) .... 2 ดาวครึ่ง ....

............................ถ้าคิดจะทำหนังคัลท์ ก็ต้องเอาให้มันสุดๆไปเลยครับ ผมเคยบอกไว้หลายทีแล้ว ส่วนใหญ่หนังคัลท์ที่ได้รับการยกย่องในโลกใบนี้โดยมากมักจะเป็นหนังที่สุดโต่ง เอาให้ถึงสุดทาง บ้าก็บ้าหลุดโลก ตลกก็เอากันให้ตายไปเลย ห้ามกั๊กเด็ดขาดครับ เพราะหนังคัลท์เนี่ยคนดูมีแค่สองทางเลือกครับ ไม่ชอบก็เกลียดกันไปเลย ? สาเหตุที่นักดูหนังจดจำหนังคัลท์ได้ก็เพราะความบ้าดีเดือดของคนทำหนังคัลท์เหล่านั้นนั่นเองครับ ยกตัวอย่างเช่นหนังของผู้กำกับ จอห์น วอลเตอร์ ที่ทำหนังคัลท์ต่ำๆออกมาเยอะมาก มีกระทั่งฉากกินขี้เป็นต้น ฯลฯ ปัญหาหนักของ Redemtion ก็คือมันยังไม่กล้าพอที่จะบ้าไปในสุดทางอย่างที่ผมเรียนเอาไว้ เชื่อว่าน่าจะเกิดจากความที่ผู้กำกับต้องการจะใส่สารลงมาในแนวทางที่หลากหลาย จนเกือบจะเหมือนหนังทดลอง ทำให้หนังหลุดประเด็นและหลุดคอนเซปที่วางไว้แต่ต้นอย่างน่าเสียดาย ผมเชื่อว่าก่อนถ่ายทำถ้าหากว่ามีการระดมความคิดในการทำบทหนัง อาจจะทำให้หนังมีหน้าตาออกมาน่าสนใจกว่าที่เห็นอยู่ ? อ่านกันต่อครับ เด๋วผมจะชำแหละหนังเป็นจุดๆอย่างละเอียดเลย

............................Redemption มีพล็อตหลวมๆว่าด้วยการพัวพันของนักการเมืองชั่ว ผู้มีอิทธิพลใต้ดิน และลัทธิประหลาดลี้ลับนามว่า " ลัทธิปิงปิง " มีการลักพาตัวลูกสาวของเจ๊ใหญ่ ผู้มีอำนาจค้ำฟ้าไปเพื่อการบางอย่าง และตัวละครทั้งหลายก็มีความพัวพันกันอยู่มั่วไปหมด แต่พูดก็พูดเหอะอย่าไปสนพล็อตเลย นี่คือหนังที่ผมคิดว่าผู้กำกับปิงปิง แกใส่เรื่องที่อยากใส่ลงมากะทันหัน ก่อนจะเอาไปสลับสับตัดต่อกันในภายหลัง มันเหมือนหนังที่คิดเรื่องไว้คร่าวๆแต่ขาดการขัดเกลาอยู่พอสมควร น่าจะคล้ายๆกับหนังของ หว่อง กาไว ? ครึ่งแรกของหนังสนุกมาก แต่ครึ่งเรื่องหลังของหนังยังมีปัญหาอยู่มากพอสมควร ด้วยความที่ผู้กำกับพยายามเปลี่ยนโทนหนัง จากตลกร้ายเสียดสี ให้กลายเป็นหนังที่มีเนื้อหาจริงจังขึ้นมากระทันหัน มุขตลกของหนังโดยรวมๆถือว่าเวิร์คอยู่แล้ว แต่การเสียดสีต้องเกลาให้คมคายกว่านี้หน่อย พูดตรงๆเลยนะครับหนังเรื่องนี้อาจจะดีกว่านี้ถ้าเปลี่ยนแนวไปเป็นหนังทริลเล่อร์เต็มตัวแบบจริงจัง หรือไม่ก็หนังฮาบ้าหลุดโลกโดยไม่ต้องสนใจความเป็นจริงแม้แต่นิด คือเอาแฟนตาซีให้มันสุดๆแบบครึ่งแรกน่ะครับ

............................ไถ่บาปด้วยบุญมาร อาจจะกลายเป็นหนังที่บ้ามาก หรือสยองมาก ถ้าจับหัวใจของความเป็นลัทธิประหลาดที่กำลังเข้าไปสิงสู่อยู่ภายในจิตใจคนหมู่มากได้สำเร็จ ส่วนเรื่องการต่อต้านทุนนิยม หรือซาตานอะไรนั่น ถ้าเล่าให้มันบ้าๆไปเลย จะน่าอินได้มากกว่าเล่าให้มันดูเป็นการเป็นงาน หนังมีซีนที่น่าประทับใจอยู่หลายฉาก หากว่าแยกหนังออกมาเป็นส่วนๆ เป็นหนังสั้นหลายเรื่องหรือ เอ็มวี อาจจะทำให้มันเป็นงานชั้นดีได้ไม่ยาก แต่ถ้าเอามาผสมผสานต่อฉากเป็นหนังยาวแล้ว มันกลับดูขาดๆเกินๆอย่างบอกไม่ถูก ผกก.แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเล่าเรื่องเป็น และถ่ายทอดภาพหลายๆฉากออกมาได้อย่างลื่นไหล เทคนิคพิเศษทางภาพแบบหนังทุนต่ำก็ถือว่าทำออกมาได้ในระดับสอบผ่าน เพลงประกอบหลายๆเพลงถือว่าติดหู และเข้าที การแสดงของนักแสดงระดับสมัครเล่นหลายๆคนก็ถือว่าไม่เลวเลยแหละครับ โดยนักแสดงที่ถือว่าเล่นได้เข้าตาที่สุดก็คงเป็น อ.ประจวบ ในบท นายพลแจ้ เฮียเล่นแบบขโมยซีนในหลายต่อหลายฉาก บทจะขำก็ทำได้ บทจริงจังก็ยังปั้นหน้าตายได้เนียนอีกด้วย !!

............................ภาพยนตร์มีการรับอิทธิพลมาจากหนังดังหลายเรื่อง มีบางฉากที่ไม่น่าจะเอามาใช้เช่น ฉากปืนจ่อหัวสามคน ( จอห์น วู ) หรือฉากรัสเซียน ลูเล็ท ( หนังสงครามเวียดนามจำชื่อไม่ได้ ) หรือฉากที่นางเอกพาพระเอกหนี ก็ละม้ายคล้ายหนังที่โจวเหวินฟะเล่น แม้ฉากเลียนแบบบางฉากจะทำได้เข้าท่าก็ตามที แต่ถ้านำเสนอสไตล์ที่เป็นออริจินอลบ้าง ก็น่าจะทำให้หนังดูมีสไตล์มากขึ้น แปลกใจที่หนังไม่ยักกะมีฉากปลอมตัวแบบสวมหน้ากาก หรือฉากฝันซ้อนฝันอะไรเทือกๆนั้น รวมไปถึงฉากแฟลชแบ็คของตัวละครหลายตัวน่าจะทำให้อธิบายความเป็นมาได้น่าสนใจขึ้น ใหนๆหนังก็มีหลายฉากที่ไม่ชัดเจนอยู่แล้ว การพยายามทำให้ทุกอย่างเคลียร์ในช่วงฉากท้ายๆ ผมว่ามันทำให้บทสรุปดูแปร่งๆแปลกประหลาดอยู่ไม่ใช่น้อย หรือไม่ก็น่าจะเพิ่มความพร่าเลือนของเส้นแบ่งระหว่างความจริงกับความวิปลาสลง หรือหักมุมอีกตลบ อาทิให้นายพลแจ้ กลายร่างเป็นอัครสาวกของลัทธิปิงปิงไปเลย หรืออะไรประมาณนั้น ? พูดง่ายๆใหนๆจะชวนสับสนแล้วก็ต้องเอาให้มันเซอร์แตก แหวกชิมิไปเล้ย


http://www.pandagroup.pantown.com/

2 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีครับไอ้เหี้ยจ๊อบ ไอ้หน้าหนังหี ไอ้ปากมดลูก

    มาด่าแค่นี้แหละค้าบ ไปละ

    ตอบลบ
  2. มีพวกปัญญาอ่อนตามมาด้วยวุ้ย เพิ่งเห็น

    ตอบลบ