.......... แวะไปเยี่ยมย่า ( คุณแม่ ) ซึ่งปัจจุบันนี้กลับมาอยู่ที่บ้านบางลำพู ก็คงใช้เป็นเรือนตายของท่านนั้นแหละ เช่นเดียวกับคุณพ่อและคุณยายของผมซึ่งก็อยู่อาศัยและเสียชีวิตในบ้านหลังนี้นี่เอง บ้านนี้ชื่ออาคารตุ๊ตตู่ ชื่อคุณแม่นั่นเอง ตามพินัยกรรมของคุณแม่แกมอบให้น้องสาว ก็คงจะให้เป็นไปตามประสงค์ของแก บ้านนี้สร้างรายได้มหาศาลเพราะเป็นบ้านเช่า ทำเลดี มีร้านขายของ เดือนๆนึงน้องแกก็รับเงินไปหลายตังอยู่ บ้านเคยถูกใช้เป็นโลเกชั่นถ่ายหนังเรื่อง Season Change ด้วยนะ โดยใช้ฉากดาดฟ้า กับฉากรอบๆอีกนิดหน่อย บ้านถูกปลุกสร้างในปี พ.ศ. 2514 ก่อนผมเกิดสองปี ก่อนหน้านี้ในสมัยก่อน ถนนสามเสน 4 หน้าบ้านค่อนข้างแคบ แต่ก็ได้ขยายให้ใหญ่ขึ้นหลังไฟใหม้ครั้งใหญ่ เดิมบ้านเคยเป็นโรงเรียนสอนขับรถ ว่ากันว่าถ้าไฟไม่ใหม้ บ้านจะมีรถโบราณอีกอย่างน้อยสองสามคัน คุณยายรักรถโบราณคันนึงมาก ยี่ห้อซีตรอง แกบ่นให้ฟังเสมอว่าเสียดายที่เอาออกมาไม่ทัน มันไฟใหม้หมด ไม่งั้นคงจะเท่ห์และมีราคามากๆๆ
........... ด้านข้างของบ้านสองทาง ทั้งด้านหลังและด้านซ้ายเคยเป็นคลองมาก่อน แถวบางลำพูก็อย่างที่ทราบสมัยก่อนมีคลองเยอะแยะมากมาย เสียดายผมนึกภาพไม่ออกจริงๆว่าถ้าเป็นสมัยก่อนที่บ้านติดคลองสองทาง มันจะมีภาพลักษณ์เป็นอย่างไร สมัยเด็กๆผมค่อนข้างสนิทกับคุณยาย ตอนคุณยายเสียผมรู้สึกสะเทือนใจกว่าตอนคุณพ่อเสียเสียอีก บ้านนี้ผมก็ย้ายออกมาได้หลายปีแล้ว แต่ก็เป็นบ้านที่อาศัยอยู่ตั้งแต่เกิดจนโต ล่าสุดที่เคยกลับไปพักค้างก็เป็นช่วงมหาอุทกภัยปีที่แล้ว ก็ได้ไปนอนค้างคืนหลายวั้น เพราะแม่ก็หนีน้ำท่วมจากบ้านน้องสาวมาอยู่บางลำพู แล้วก็ต้องบอกว่าต้องขอบคุณที่น้ำท่วม ไม่งั้นย่าคงไม่ได้กลับมาอยู่บางลำพู คงต้องอยู่บ้างน้องสาวกลางป่าที่ตลิ่งชันไปจนตาย ที่นั่นไม่น่าอยู่เลยสักนิด ผิ ดกับที่บางลำพู ที่ผู้คนขวักไขว่ อย่างน้อยใครต่อใครก็แวะมาเยี่ยมเยียนได้สะดวกกว่า
........... เกือบลืมเล่าไปอีกเรื่องนึง บ้านหลังนี้เคยมีโอกาสต้อนรับอดีตนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยมาแล้วหนึ่งท่านด้วยนะครับ ให้ทายว่าใคร เดาได้ใหมเอ่ย เฉลยเลยดีกว่า ก็ พณ.ท่าน อดีตนายกสมัคร สุนทรเวช นั่นเองครับ แต่เป็นช่วงที่ท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งนะครับ เนื่องจากที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่คุณยายเป็นสาวกพรรคประชากรไทย ของนายกสมัคร แต่ก่อนนายสมัครชอบเดินแถวบางลำพูบ่อยๆ เพราะบ้านเก่าท่านก็อยู่แถวนั้น วันนึงท่านผ่านมา คุณแม่ก็เลยเชิญมานั่งทานน้ำพูดคุยกันที่บ้าน ช่วงเวลาสั้นๆ แต่ผมไม่ได้ถ่ายภาพคู่ไว้ นึกเสียดายถึงวันนี้ เพราะช่วงนั้นเราโตแล้ว และรู้ความเป็นมาเป็นไปของนายสมัคร การได้มาตำแหน่งมท 1 หรือการเป็นฝ่ายขวาจัดทำร้ายนักศึกษา เป็นอะไรที่เรารับไม่ได้ และเกลียดฝังใจ เจอหน้าก็ไม่อยากเข้าใกล้ ถ้ารู้ว่าภายหลังจะได้มาเป็นผู้ว่ากทม และเป็นนายกไทย ถึงจะเกลียดยังไงก็คงต้องขอถ่ายภาพคู่และถ่ายภาพหน้าบ้านไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ถ้าคนใหนมีแววจะเป็นคนดังระดับชาติ ต้องรีบถ่ายภาพเอาไว้แม้จะเป็นช่วงธรรมดาหรือตกต่ำของเขาก็ตามที
http://www.pandagroup.pantown.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น